WORLDWIDE

Canada Nickel ประกาศจัดตั้งบริษัท NetZero Metals เพื่อพัฒนาโรงงานผลิตนิกเกิล
POSTED ON 29/07/2563


 

 

Canada Nickel Company Inc. (TSX-V: CNC) ประกาศว่า บริษัทได้จัดตั้งบริษัทในเครือที่มีชื่อว่า NetZero Metals Inc. เพื่อทำการวิจัยและพัฒนาโรงงานแปรรูปในเมืองทิมมินส์ รัฐออนแทรีโอ โดยมีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันมาใช้ผลิตผลิตภัณฑ์นิกเกิล โคบอลต์ และเหล็กคาร์บอนเป็นศูนย์

ขณะเดียวกัน บริษัทได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า NetZero NickelTM, NetZero CobaltTM และ NetZero IronTM ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเขตปกครองอื่น ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตผลิตภัณฑ์นิกเกิล โคบอลต์ และเหล็กคาร์บอนเป็นศูนย์

“อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและสินค้าผู้บริโภคอื่น ๆ ต่างต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในทศวรรษนี้ ไม่ใช่ภายในปี 2050 แบบที่บริษัทผลิตเหล็กหลายแห่งตั้งเป้าไว้อย่างคลุมเครือ” มาร์ก เซลบี ประธานและซีอีโอของ Canada Nickel กล่าว

“ด้วยจุดแข็งของเมืองทิมมินส์ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังน้ำคาร์บอนเป็นศูนย์ และโครงการ Crawford Nickel-Cobalt Sulphide Project ของเราซึ่งมีหินเซอร์เพนทีนที่มีคุณสมบัติตามธรรมชาติในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อสัมผัสกับอากาศ ส่งผลให้ Canada Nickel มีความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนเป็นศูนย์อย่างที่ลูกค้าคาดหวังจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และเนื่องจากนิกเกิลเป็นโลหะทางเลือกในการปฏิวัติพลังงานสะอาด การที่เรามุ่งมั่นผลิตนิกเกิลคาร์บอนเป็นศูนย์จึงเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ผู้บริโภค และนักลงทุนของเรา”

หินเซอร์เพนทีนเป็นทรัพยากรที่มีสัดส่วนมากกว่า 90% ในโครงการ Crawford Nickel-Cobalt Sulphide Project [1] และจากการศึกษามากมายพบว่าหินเซอร์เพนทีนมีคุณสมบัติตามธรรมชาติในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อสัมผัสกับอากาศ ด้วยกระบวนการคาร์บอเนชันตามธรรมชาติ

อุตสาหกรรมนิกเกิลกำลังเผชิญกับความท้าทายมากมาย เนื่องจากกระบวนการแปรรูปศิลาแลงและแร่ซัลไฟด์ในปัจจุบันก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมากในรูปแบบของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และสถานการณ์มีแนวโน้มย่ำแย่ลงเพราะการผลิตนิกเกิลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลิตนิกเกิลดิบในอินโดนีเซีย ซึ่งมีข้อมูลระบุว่าใช้ถ่านหิน 25-30 ตันในการผลิตนิกเกิลหนึ่งตัน และเมื่อรวมกับแหล่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อื่น ๆ ในกระบวนการผลิต จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประเภท Scope 1 และ Scope 2 รวมเกือบ 90 ตันต่อการผลิตนิกเกิลหนึ่งตัน (ดูภาพ 1)

สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ประกอบด้วยนิกเกิล 50 กิโลกรัมจากแหล่งผลิตข้างต้น จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ราว 4 ตัน ส่วนแหล่งผลิตนิกเกิลอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมคือบรรดาโครงการ HPAL ในอินโดนีเซีย ซึ่งมีการทิ้งกากแร่ลงในทะเลลึก ส่งผลให้มีการทิ้งกากแร่ในมหาสมุทรราว 100 ตันต่อการผลิตนิกเกิลหนึ่งตัน