ข่าวต่างประเทศ - ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2557 ยอดขาดดุลการค้ากับต่างประเทศของสหรัฐ ประจำเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ลดจาก 39,300 ล้านดอลลาร์ฯ ในเดือนตุลาคม 2556 เป็น 34,300 ล้านดอลลาร์ฯ ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่สหรัฐฯ ขุดเจาะน้ำมันดิบได้มากขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดิบใต้ชั้นหินดินดานที่ปัจจุบัน สามารถขุดเจาะผ่านใต้ชั้นหินแข็งได้ในแนวราบด้วยหัวเจาะไฮดรอลิกแบบใหม่ ส่งผลให้สหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศน้อยลง

สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ หรือ อีไอเอ รายงานว่า น้ำมันดิบในประเทศที่สหรัฐสามารถขุดเจาะได้เอง จะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 9.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2558 มากเท่ากับที่เคยขุดหาได้มากสุดในปี 2513 และจะส่งผลให้สหรัฐฯ บริโภคน้ำมันดิบจากต่างประเทศน้อยลง จากที่เคยมากถึง 60% ในปี 2548 เหลือเพียง 24% ของที่บริโภคทั้งหมดในประเทศ ในปี 2558

ความก้าวหน้าดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มล็อบบี้ยิสต์ในกรุงวอชิงตัน ขยับตัวเรียกร้องให้รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผ่อนปรนระเบียบส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซึ่งใช้ควบคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมให้อยู่ในระดับต่ำ และทำให้มูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศลดลงจาก 290,400 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2555 เหลือเพียง 250,600 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2556 (ณ วันสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2556) ขณะผู้กลั่นน้ำมันและผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเห็นว่าผู้บริโภคสุดท้ายจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบ

ขณะที่ด้านเจพีมอร์แกน ระบุว่า จากตัวเลขการค้าดังกล่าวทำให้เชื่อได้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปีนี้จะเติบโตขึ้นถึง 3% แทนที่จะเป็นเพียง 2.5%