ข่าวต่างประเทศ - สมาคมเหล็กกล้าโลก (WSA) ซึ่งประกอบด้วยผู้ผลิตเหล็กกล้า 170 ราย คิดเป็นสัดส่วนรวม 85% ของการผลิตทั่วโลก ได้รายงานถึงความต้องการใช้เหล็กกล้าในระดับโลกว่า จะมีการขยายตัวลดลงในปีนี้ เนื่องจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการใช้เหล็กกล้าปริมาณมากที่สุดในโลก โดย WSA คาดการณ์ว่า อุปสงค์เหล็กกล้าในระดับโลกจะมีการขยายตัว 0.5% สู่ระดับ 1,544 ล้านตันในปีนี้ โดยชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 0.6% ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี WSA คาดว่า อัตราการขยายตัวของอุปสงค์จะพุ่งขึ้น 1.4% สู่ระดับ 1,565 ล้านตันในปีหน้า

ขณะที่ทางด้านสหพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลผลิตเหล็กกล้าดิบของญี่ปุ่นลดลง 1.5% ในปีการผลิต 2557 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สู่ระดับ 109.85 ล้านตัน ซึ่งปรับตัวลงเป็นครั้งในรอบ 3 ปี อันเนื่องมาจากการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว

ในปีการผลิตที่สิ้นสุดเมื่อเดือนที่แล้ว (มี.ค.2558) การผลิตเหล็กม้วนสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์และเหล็กเส้นเสริมแรง ลดลง 1.9% แตะ 84.88 ล้านตัน และการผลิตเหล็กกล้าชนิดพิเศษสำหรับเครื่องจักรก่อสร้างและวัตถุประสงค์อื่น ปรับตัวลง 0.2% แตะ 24.97 ล้านตัน ขณะที่ในเดือน มี.ค.เพียงเดือนเดียว ผลผลิตเหล็กกล้าลดลง 4.5% เมื่อเทียบรายปี แตะ 9.29 ล้านตัน

ทั้งนี้ สหพันธ์ฯคาดว่า ผลผลิตเหล็กกล้าดิบในปีการผลิต 2558 จะทรงตัวจากปีก่อนหน้า เนื่องจากการผลิตฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 3/2558 หลังจากการปริมาณการผลิตลดลงในไตรมาสก่อนหน้า อันเนื่องมาจากปริมาณสต็อกที่ระดับสูง