ข่าวยานยนต์ (Automotive) - นายมาร์ติน ลิมเพิร์ต (Martin Limpert) กรรมการผู้จัดการของ ปอร์เช่ เอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สร้างยอดขายได้มากเป็นประวัติศาสตร์ด้วยยอดขาย 5,225 คัน ในปี 2013 เพิ่มจากปี 2012 ถึง 10.5% รถสปอร์ต 911, บ็อกซเตอร์ (Boxster), และ เคย์แมน (Cayman) สร้างยอดขายรวมเติบโตขึ้นถึง 60.4% ส่วนคาเยนน์ (Cayenne) รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) จากปอร์เช่ และพานาเมร่า (Panamera) ยังคงเป็นรุ่นยอดนิยมของลูกค้าในภูมิภาคนี้ โดยคาเยนน์ (Cayenne) มียอดเพิ่มขึ้น 13% ส่วนพานาเมร่า (Panamera) มียอดขายรวมลดลงเนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนโฉมเข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 2 ในปี 2014 ทำให้ยอดขายลดลง 35.6%

ลิมเพิร์ต กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบันทึกหน้าใหม่หากเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับมาคันน์ (Macan) ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วในเมืองลอสแองเจลิส และได้รับการต้อนรับเข้าสู่ภูมิภาคนี้ที่งานไทเป ออโต้ โชว์ (Taipei Auto Show) เมื่อเดือนที่แล้ว และเข้าสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคภายในปีนี้

นอกจากนี้ ยังมีรถซุปเปอร์สปอร์ต รุ่นพิเศษ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) และรถที่น่าสนใจอีก เช่น 911 จีที3 (911 GT3), 911 เทอร์โบและเทอร์โบ เอส (911 Turbo&Turbo S), 911 ทาร์กา (911 Targa) และ พานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นที่สอง จึงเชื่อว่าปี 2014 นี้ จะเป็นอีกปีที่น่าทึ่งสำหรับปอร์เช่อย่างแน่นอน

สำหรับตลาดในประเทศไต้หวันทำยอดขายได้ถึง 2,000 คัน เติบโต 16.9% เกาหลีใต้ทำยอดขายได้สูงที่สุดรวม 2,061 คัน เพิ่มขึ้น 34% ในขณะที่ตลาดมาเลเซียและสิงคโปร์ช่วยสร้างยอดขายให้ภูมิภาคถึง 10.9% ตลาดอื่นๆ มีความสำคัญด้วยเช่นกัน อาทิ ตลาดในประเทศไทย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างยอดขายได้ถึง 105, 95 และ 91 คัน ตามลำดับ

ส่วนตลาดบรูไน, เฟรนช์โปลินีเซีย, อินโดนีเซีย, นิวแคลิโดเนีย และตลาดศรีลังกา สร้างยอดขายร่วมกันได้ 5.8% จากยอดขายรวมของภูมิภาค ประเทศเกาหลียังคงเป็นตลาดที่แข็งแกร่งมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และแยกเป็นตลาดอิสระตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นไป อีกทั้งปอร์เช่เอเชียยังได้มีโอกาสต้อนรับตลาดใหม่อย่างตลาดกัมพูชา และมองโกเลีย พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา และมีโอกาสได้กลายมาเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพและสำคัญในอนาคต

ยอดขายรถปอร์เช่ 911s ที่ส่งมอบให้ลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสูงถึง 598 คัน คิดเป็น 11.4% ส่วน คาเยนน์ (Cayenne) คือรุ่นที่มียอดขายมากที่สุดถึง 3,149 คัน คิดเป็น 60% จากยอดขายทั้งหมด ยอดขายของรถยนต์ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) สี่ประตู แกรน ทัวริสโม่ ทำยอดขายได้ 698 คัน ส่งผลให้มียอดขายรวม 13.4% ส่วนบ็อกซเตอร์ (Boxster) ใหม่ และเคย์แมน (Cayman) ใหม่ ทำยอดขายได้ 780 คัน จากยอดขายรวม 5,225 คัน คิดเป็น 14.9% จากยอดรวมเลยทีเดียว

นายวินธร บุนนาค กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ปอร์เช่ในปีที่ผ่านมา หลักๆ แล้วมาจาก คาเยนน์ เอส ไฮบริด (Cayenne S Hybrid) และ พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) เพิ่งเปิดตัวและเป็นสุดยอดนวัตกรรม ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plug-in Hybrid) ในคลาสรถหรูคันแรกของโลก ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 32 กิโลเมตรต่อลิตร วิ่งด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าได้ไกลถึง 36 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งภายในปี 2014 นี้ ลูกค้าชาวไทยจะได้พบกับ มาคันน์ (Macan) รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ขนาดกะทัดรัด มาตรฐานใหม่วงการรถยนต์ เพื่อลูกค้าที่ชื่นชอบความคล่องตัวและความสนุกสนานในการขับขี่ คาดว่าจะสามารถทำตลาดในไทยได้ไม่แพ้ รุ่นคาเยนน์ (Cayenne) อย่างแน่นอน