ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี สนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนรถยนต์ ที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม และวิธีหนึ่งที่ฟอร์ดกำลังทำอยู่ คือ การแปรสภาพขวดพลาสติกเป็นแผ่นปิดใต้ท้องรถของรถยนต์ และ รถอเนกประสงค์ทุกคัน รวมถึงขอบล้อของรถกระบะรุ่น F-Series โดยฟอร์ด ใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิลกว่า 1,200 ล้านขวดต่อปี หรือ 250 ขวดต่อคัน โดยเฉลี่ยในการผลิตส่วนประกอบรถยนต์ สำหรับรถหนึ่งคัน

"แผ่นปิดใต้ท้องรถ ถือเป็น ชิ้นส่วนขนาดใหญ่ สำหรับชิ้นส่วนที่มีขนาดนั้น ถ้าเราใช้พลาสติกแข็ง ก็จะมีน้ำหนักมากขึ้นถึง 3 เท่า" โทมัส สวีเดอร์ วิศวกรนักออกแบบ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว "เรามองหาวัสดุที่ทนทาน และมีสมรรถนะสูงที่สุด เพื่อนำมา ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ของเรา สิ่งที่เรา ทำอยู่นี้ ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม อีกด้วย"

สำหรับขั้นตอนการผลิต เริ่มจากขวดพลาสติกในถังขยะรีไซเคิล ที่ถูกเก็บมาหลายพันขวด และย่อยให้เป็นชิ้นเล็กๆ โดยทั่วไป เศษพลาสติกจาก ขั้นตอนนี้ จะนำไปขายให้กับบริษัทที่แปรรูปพลาสติกให้เป็นไฟเบอร์ ด้วยการละลายและกรองออกมา ไฟเบอร์ ที่ได้จะนำมาผสมกับไฟเบอร์ชนิดอื่นๆ ในขั้นตอนกระบวนการผลิตเส้นใย และนำมาทำเป็นแผ่นวัสดุ ก่อนจะนำไปผลิตเป็นส่วนประกอบรถยนต์ ด้วยน้ำหนัก ที่เบา ทำให้พลาสติกรีไซเคิล กลายเป็นวัสดุที่เป็นที่ต้องการสำหรับผลิตแผ่นปิด ใต้ท้องรถ และขอบ ล้อหน้าและหลัง แผ่นปิด ใต้ท้องรถนี้ ยังช่วยให้ลดเสียงรบกวนให้กับรถฟอร์ด เอสเคป โฉมใหม่ รุ่นปี 2020

"ฟอร์ดเป็น หนึ่งในผู้นำในการ ใช้วัสดุรีไซเคิล นอกจากก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางเทคนิคและความคุ้มค่า ทั้งยังเป็นผลดี ต่อสิ่งแวดล้อม วัสดุชนิดนี้ยังถือว่าผ่านมาตรฐานอันเข้มงวดของเรา ในเรื่องของทั้งความทนทาน และประสิทธิภาพอีกด้วย" สวีเดอร์ กล่าว