VEHICLES

World Energy เปิดราคาขายรถยนต์ EV ในไทยเริ่มต้นที่ 3 แสนบาท
POSTED ON 12/09/2560


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

โพสต์ทูเดย์ รายงานข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า บริษัท เวิลด์ เอนเนอร์จี กรุ๊ป (World Energy Group) เตรียมใช้เงินลงทุนราว 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 25,800 ล้านบาท เพื่อตั้งโรงงานประกอบยานยนต์ไฟฟ้า โดยแบ่งการลงทุนเป็น 2 ส่วน ได้แก่ (1) เงินลงทุน 600 ล้านดอลลาร์ หรือราว 20,000 ล้านบาท ใช้สำหรับการตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก กำลังการผลิต 10,000 คันต่อปี ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท อินเตอร์แพลน (Interplan) ประเทศไนจีเรีย คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ภายใน 2 ปี และ (2) เงินลงทุนจำนวน 160 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5,300 ล้านบาท ใช้เพื่อประกอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า กำลังการผลิต 60,000 คันต่อปี โดยเป็นการร่วมทุนกับบริษัท เบนหลิง (Benling) ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตได้ในช่วงต้นปี 2561

 

ด้าน นายรัฐกฤช เนติรฐนนท์กุล ประธานบริษัท เวิลด์ เอนเนอร์จี กรุ๊ป เปิดเผยเพิ่มเติมถึงแผนธุรกิจการผลิตยานยนต์ต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ “อีท่า” (ETA) ว่า บริษัทฯ จะผลิตจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “อีท่า” ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยตั้งเป้ายอดขายรถยนต์อยู่ที่ 1,000 คัน ภายในปี 2561 ซึ่งจะนำเข้าจากต่างประเทศมาจำหน่ายก่อน และปี 2562 ตั้งเป้าโต 30% ราคาขายราคาเริ่มต้นที่คันละ 300,000 บาท  และหากโรงงานเสร็จคาดว่าจะลดราคาลง 5-10% พร้อมหวังยอดขายโต 40-50%

 

ขณะที่ตั้งเป้ายอดขายรถจักรยานยนต์ไว้ 10,000 คัน ภายในปี 2561 และเพิ่มเป็น 60,000 คัน ภายใน 5 ปี โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 40,000 บาทต่อคัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดรถจักรยานยนต์ไว้ที่ 3% จากตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศ 2 ล้านคัน

 

ด้านแผนขยายผู้แทนจำหน่ายจะตั้งผู้แทนจำหน่ายรถยนต์อยู่ที่ 23 แห่ง และผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ 83 แห่ง ภายในปี 2561 พร้อมทั้งมีแผนส่งออกรถยนต์ละรถจักรยานยนต์ในสัดส่วน 60% ของกำลังการผลิตไปยังประเทศไนจีเรีย อินเดีย และเอธิโอเปีย ภายหลังสร้างโรงงานเสร็จ ส่วนแผน 3 ปีจะเพิ่มรุ่นรถยนต์นั่งไฟฟ้าขนาดกลางเพื่อขยายตลาดตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาท ขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 500 แห่งภายในปี 2561 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 แห่ง ภายในปี 2565 โดยเน้นขยายในพื้นที่ศูนย์ราชการ อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาล เป็นต้น

 

นายรัฐกฤช กล่าวว่า ถึงแม้มาตรการด้านข้อกำหนดยังไม่ชัดเจน แต่บริษัทฯ มั่นใจว่ารัฐบาลจะคงเดินหน้าโครงการดังกล่าวอย่างแน่นอน พร้อมทั้งการตอบรับของผู้บริโภคและภาคเอกชนมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นในประเทศไทยในระยะเวลาอันใกล้

 

ที่มา : โพสต์ทูเดย์