ยานยนต์อุตสาหกรรม - นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้ลงทุน 650 ล้านบาทในการขยายไลน์ประกอบรุ่น C 300 BlueTEC HYBRID เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ หรือ TAAP จังหวัดสมุทรปราการ ตามมาตรฐานของเดมเลอร์ เอจี เยอรมนี เพื่อเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอของรถดีเซลไฮบริด ในตระกูล Contemporary Luxury ให้ครบถ้วนทั้ง C-E-S

บริษัทฯได้เริ่มผลิตรถที่ใช้เทคโนโลยีดีเซลไฮบริดในไทยตั้งแต่ปี 2556 เริ่มจากสายการผลิต E-Class ต่อด้วย S-Class ในปีต่อมา และในโอกาสครบรอบ 110 ปี ของเบนซ์ในไทย บริษัทฯจึงตัดสินใจเปิดสายการผลิตรุ่น C 300 BlueTEC HYBRID ขึ้นมาอีก 1 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนไทย

นายมาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถรุ่นใหม่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และเริ่มขายในงานมอเตอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 25 มี.ค. - 5 เม.ย.2558 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมี 2 รุ่นให้เลือก คือ C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive ราคา 2.84 ล้านบาท และ C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic ราคา 3.09 ล้านบาท

สำหรับปีที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยทำได้ 11,328 คัน เติบโต 12% คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 51% และปีนี้มีแผนจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่กว่า 15 รุ่น พร้อมขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการอีก 6 แห่งภายในปี 2559 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 31 แห่งทั่วประเทศ

ด้าน นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า 110 ปีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในไทย และการลงทุนเพิ่มในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย เพราะมีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่า 40% และยังผลิตจากโรงงานประกอบของธนบุรีประกอบรถยนต์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการของไทย

ขณะที่ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยยังมีความแข็งแกร่งและเป็นผู้นำในภูมิภาค โดยประเมินว่ายอดผลิตในปีนี้จะทำได้ 2.15 - 2.2 ล้านคัน ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มมีการฟื้นตัว ดังจะเห็นจากอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มมีงานเข้ามาจากโครงการต่างๆ ของทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้มีคำสั่งซื้อและเม็ดเงินหมุนเวียน ส่วนการถอนตัวของค่ายจีเอ็มในโครงการอีโคคาร์ 2 นั้น ไม่ได้มีผลกระทบแต่อย่างใด เพราะยังมีอีก 9 บริษัทที่ได้ให้ความสนใจ