VEHICLES

"ฮุนได" ลุยหนักตลาด "รถฟอร์คลิฟท์" ในไทย
POSTED ON 04/11/2557


 

ยานยนต์อุตสาหกรรม - บริษัท ฮุนได เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ จำกัด ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ผลิตและจำหน่ายรถฟอร์คลิฟท์ ฮุนไดเชื่อมั่นอุตสาหกรรมในประเทศไทยเติบโตต่อเนื่อง ผสานความร่วมมือตัวแทนจำหน่ายไทย บริษัท ที แอล เอส เซาธ์อีสท์ เอเชีย จำกัด รุกทำตลาดรถฟอร์คลิฟท์ในประเทศ

 

นายวินเซนต์ อัน ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาตลาดยานยนต์เพื่ออุตสาหกรรม และรักษาการแทนผู้อำนวยการกลุ่มยานยนต์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท ฮุนได เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดรถฟอร์คลิฟท์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความต้องการในการใช้รถใหม่สูงถึง 7,000 คันต่อปี รองลงมาคือ อินโดนีเซีย และเวียดนามที่มียอดขายขยายตัวถึง 20% เนื่องจากมีนักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนมากขึ้น ทำให้มีการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2557 นี้ไทยประสบกับปัญหาด้านการเมืองและภัยธรรมชาติ ทำให้ยอดขายเติบโตเพียง 12% แต่อย่างไรก็ตาม ยอดขายก็ยังคงสูงกว่าเวียดนามถึง 3 เท่า

 

“เรายังเชื่อมั่นในตลาดไทยและเชื่อในบริษัท ที แอล เอส กรุ๊ป เซาธ์อีสท์ เอเชีย จำกัด (TLS Group) ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจรถฟอร์คลิฟท์มากว่า 10 ปีและทำยอดขายเป็นที่น่าพอใจ” นายวินเซนต์ อัน กล่าว

 

ด้าน นายกมลวัฒน์ วีรศุภกาญจน์ รองประธานส่วนงานธุรกิจยานยนต์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท ที แอล เอส กรุ๊ป เซาธ์อีสท์ เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงกันยายน 2557 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้กว่า 130 คัน คิดเป็นมูลค่า 130 ล้านบาท มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น การท่าเรือแห่งประเทศไทย, ไทยซัมมิท และปูนอินทรี คาดว่าทั้งปี 2557 จะสามารถทำยอดขายได้ถึง 150 คันตามเป้าหมายทางการตลาด เนื่องจากเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ ในปี 2558 ที่ไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น คาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายรถฟอร์คลิฟท์ให้เพิ่มขึ้นอีก 30% เป็น 180-200 คัน คิดเป็นมูลค่า 180-200 ล้านบาท

 

โดยในปี 2558 “ฮุนได” มีแผนที่จะทำตลาดในประเทศไทยให้เข้มข้นขึ้น โดยเน้นเจาะ 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อาหาร ยานยนต์ และโลจิสติกส์ รวมถึงมีแผนเปิดตัว “ฮุนได ฟอร์คลิฟท์ ซีรีย์ 9” เพิ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่โดยใช้ระบบ CPU ประมวลผลการทำงาน เพื่อให้ผู้ใช้งานทำงานได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น

 

โดยไตรมาสแรกของปี 2558 บริษัทฯ เตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการเพิ่มอีก 2 สาขา คือ พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร จากเดิมที่มีอยู่ 4 สาขาคือ ระยอง ชลบุรี สิงห์บุรี และกรุงเทพฯ รวมถึงการสร้างศูนย์ฝึกอบรม ที่ศูนย์บริการ จ. ระยอง บนพื้นที่ 22 ไร่ งบลงทุน 70 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2558