VEHICLES

"ฟอร์ด" เดินหน้าลุยอีโคคาร์ 2 มั่นใจไทยฮับผลิตรถอาเซียน
POSTED ON 28/10/2557


ยานยนต์อุตสาหกรรม - "นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช" รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการหารือกับ "นายแมท แบรดลีย์" ประธานฟอร์ด ภูมิภาคอาเซียน ว่า ประธานฟอร์ดได้ยืนยันที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกในภูมิภาคนี้ โดยล่าสุดก็ได้ยุบสายการผลิตฟอร์ด เอสเคป ที่ฟิลิปปินส์ มายังประเทศไทย ซึ่งยอดการผลิต 2 ใน 3 จะเป็นการส่งออก จากในปัจจุบันฟอร์ดมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 4 แสนคัน แต่ในปีนี้คาดว่าจะผลิตได้ 1.5 แสนคัน เป็นการส่งออก 1 แสนคัน และอีก 5 หมื่นคันเป็นการขายภายในประเทศ

 

โดยเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2557 ที่ผ่านมา ฟอร์ดได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล รุ่นที่ 2 หรือ อีโคคาร์ 2 ซึ่งจะเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตของฟอร์ดให้สูงขึ้นไปอีก 100,000 คันต่อปี ตามเงื่อนไขการลงทุนในอีโคคาร์ 2 จากปัจจุบันที่ฟอร์ดมีกำลังการผลิต 400,000 คันต่อปี แต่มีการผลิตอยู่ 150,000 คันต่อปี ทำให้ฟอร์ดขยายกำลังการผลิตเป็น 5 แสนคัน โดยในโครงการอีโคคาร์ 2 นี้ บีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว 5 บริษัท ได้แก่ ฟอร์ด, มาสด้า, นิสสัน, มิตซูบิชิ และ เชฟโรเลต จากผู้ที่ยื่นขอเข้ามาทั้งหมด 10 ราย ซึ่งหากตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด บีโอไอก็จะอนุมัติให้ทุกรายที่ขอ โดยในแต่ละรายจะผลิตรถยนต์อีโคคาร์ไม่ต่ำกว่า 1 แสนคันต่อปี

 

นายแมท แบรดลีย์ ประธานฟอร์ด ภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า ตนเชื่อว่าตลาดรถยนต์ของประเทศไทยยังมีแนวโน้มที่ดี แม้ช่วงที่ผ่านมายอดขายรถยนต์ทั้งระบบจะชะลอลงก็เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ในส่วนของฟอร์ดยังสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้และยังเพิ่มขึ้นมาเป็น 5% จากปลายปีที่แล้วที่มีส่วนแบ่งอยู่ 3% และฟอร์ดมองว่าไทยยังคงเป็นฮับการผลิตของภูมิภาคอาเซียน โดยในส่วนรถยนต์อีโคคาร์ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ารถยนต์รุ่นดังกล่าวจะออกสู่ตลาดเมื่อใด ซึ่งภายใต้โครงการนี้ ฟอร์ดได้ใช้เงินทุน 18,000 ล้านบาท กำลังการผลิต 180,000 คันต่อปี

 

นอกจากนี้ ทางผู้บริหารฟอร์ดยังขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐบาลไทยตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติตามพันธกรณีของประเทศสมาชิกในอาเซียนภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA)ให้เป็นไปตามเงื่อนเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV ที่ต้องลดอากรเป็น 0% ภายใน 1 ม.ค.2561 และการดำเนินการยกเลิกมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีของประเทศสมาชิก เพื่อสนับสนุนการเข้าสู่ตลาดของไทยให้มีประสิทธิภาพ

 

ด้าน นายวิชัย จิราธิยุต ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ฟอร์ดยังหารือในเรื่องของระเบียบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตแบบใหม่ ที่จะคิดตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2559 ซึ่งโดยรวมฟอร์ดเห็นด้วยกับมาตรการทางภาษีใหม่นี้ แต่สิ่งที่กังวลจะเป็นเรื่องระเบียบวิธีปฏิบัติตามเกณฑ์ภาษีใหม่ว่าจะต้องจะมีวิธีการปฏิบัติอย่างไร

 

สำหรับยอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงมั่นใจว่าจะผลิตได้ 2.1 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ 9 แสนคัน และผลิตเพื่อส่งออก 1.2 ล้านคัน ซึ่งอาจทำให้ยอดผลิตรถของประเทศไทยลดลงจากปัจจุบันที่เป็นอันดับ 9 ของโลก ไปเป็นอันดับที่ 10-11 ของโลก แต่ในแง่ของกำลังการผลิตขณะนี้มีอยู่ร่วม 2.8 ล้านคัน ซึ่งการเข้ามาของอีโคคาร์ 2 จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นสูงกว่า 3 ล้านคันต่อปี

 

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 แต่ละค่ายรถยนต์จะเร่งออกมาตรการส่งเสริมการขายอย่างเต็มที่ รวมทั้งในช่วงเดือน ธ.ค.2557 นี้ จะมีการจัดงานมอร์เตอร์เอ็กซ์โป ซึ่งจะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ คาดว่าจะเป็นการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ภายในประเทศให้ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่ายอดการผลิตรวมจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ที่มีจำนวน  2.45 ล้านคัน เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และความไม่สงบในตะวันออกกลาง

 

"ยอดรถยนต์ที่จะเพิ่มขึ้นจากโครงการอีโคคาร์ 2 จะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน เมื่อรวมกับกำลังการผลิตในปัจจุบันก็จะมีกำลังการผลิตรวมกว่า 3.8 ล้านคันในปี 2559" นายวิชัย กล่าว

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ, ไทยรัฐ, โพสต์ทูเดย์