VEHICLES

"เบนท์ลี่ย์" พัฒนารถต้นแบบไฮบริด ส่งลุยตลาดไฮเอนด์
POSTED ON 16/10/2557


ยานยนต์อุตสาหกรรม - เบนท์ลี่ย์ใช้แนวคิดไฮบริดด้วยการขยายความเหนือชั้นที่ล้ำสมัยและประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเป็นเทคโนโลยีชั้นนำซึ่งเบนท์ลี่ย์ได้นำมาถ่ายทอดผ่านรถสปอร์ตอเนกประสงค์ SUV ใหม่ล่าสุดในปี 2017 โดยรถต้นแบบ Bentley Hybrid Concept จะถูกนำมาจัดแสดงภายในงานมหกรรมยานยนต์ Beijing International Automotive Exhibition

 

การนำเสนอแบรนด์รถยนต์หรูที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ถือได้ว่าเป็นการนำเสนอทางเลือกของการขับเคลื่อนรูปแบบใหม่ให้กับตลาดรถยนต์หรู โดย Dr.Wolfgang Schreiber ประธานบริหารของเบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ กล่าวว่า "ไม่มีผู้ใดที่จะปฏิเสธในเรื่องของเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ที่เหมาะสมกับคุณค่าของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ นั่นคือเรื่องของความหรูหราและประสิทธิภาพของรถที่เต็มพิกัด อีกทั้งการนำเสนอเครื่องยนต์แบบใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมพลังงานไฟฟ้าจะผลักดันและเพิ่มประสิทธิภาพของหลักปรัชญาการพัฒนานี้ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ภายในระยะเวลา 10 ปี รถยนต์กว่า 90% ที่ได้รับการผลิตจากเราจะออกมาในรูปแบบ plug-in hybrid ซึ่งเราภูมิใจที่เป็นผู้นำในการพัฒนาที่ล้ำสมัยสำหรับรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม"

 

ลูกค้ามีตัวเลือกเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับความทันสมัย พละกำลัง และประสิทธิภาพของรถ ด้วยระบบ Plug-in Hybrid ของเบนท์ลี่ย์ จะทำให้พละกำลังเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้น 25% พร้อมด้วยการลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 70% แม้ว่าประสิทธิภาพและศักยภาพของรถที่ต่างกันแต่เบนท์ลี่ย์ยังคงความหรูหราอย่างมีระดับ การออกแบบที่เหนือกาลเวลา และความเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ระบบการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดของเบนท์ลี่ย์ สำหรับการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่สามารถวิ่งได้อย่างน้อย 50 กิโลเมตร ส่งผลให้การขับขี่ในเมืองกลายเป็นการขับขี่ที่ปราศจากมลพิษ และเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนถนนได้มากยิ่งขึ้น

 

ส่วนแนวคิด Bentley Hybrid Concept นั้นมีพื้นฐานมาจากรถรุ่น Flagship ของครอบครัวเบนท์ลี่ย์นั่นคือ "มูซาน" (Mulsanne) เพื่อแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีไฮบริดที่จะเข้ามาเสริมทั้งความหรูหราและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของเบนท์ลี่ย์ให้มากขึ้นไปอีก สีทองแดง (Copper) จะถูกนำมาใช้กับรูปลักษณ์ภายนอกและภายในเพื่อเป็นจุดเด่นให้เห็นถึงระบบไฟฟ้าที่ซ่อนอยู่ในรถคันนี้ รวมถึงรายละเอียดของสีที่ถูกเพิ่มลงในระบบไฟหน้า เบรกคาลิปเปอร์ หรือรายละเอียดของเส้นสายต่างๆ ของรถรวมไปถึงงานฝีมือต่างๆ นอกจากนี้ ยังถูกนำมาใช้เติมแต่งภายในห้องโดยสาร โดยเน้นไปที่เนื้อไม้ veneers fascias จากงานฝีมือ ปุ่มสวิทซ์ต่างๆ และหน้าปัดเข็มต่างๆ รวมไปถึงเส้นสายขอบสีทองแดง (Copper) จะถูกนำมาใช้เป็นขอบให้กับ Mulliner Driving Specification รูปแบบลายเพชรสำหรับภายในรถยนต์

 

สำหรับแนวคิดไฮบริดจากเบนท์ลี่ย์นี้จะถูกนำเสนอในงานมหกรรมยานยนต์ ณ กรุงปักกิ่ง บนบูธรถยนต์ เบนท์ลี่ย์ ในช่วงเดือน เม.ย.ของปีหน้า รวมถึงรุ่นฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 (Flying Spur V8) ใหม่ล่าสุดที่จะเปิดตัวที่ประเทศจีน และเข้ามาเติมเต็มให้กับครอบครัวฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) ซึ่งสามารถวิ่งได้ไกลถึง 500 ไมล์หากเติมน้ำมันเต็มถัง ถัดมาคือรุ่นคอนติเนนทัล จีที สปีด (Continental GT Speed) ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถสายการผลิตที่เร็วที่สุดจากเบนท์ลี่ย์ที่เคยมีมา นั่นคือ 206 ไมล์ต่อชั่วโมง (331 กิโลเมตร/ชั่วโมง) แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 635 แรงม้า และแรงบิดอยู่ที่ 820 นิวตันเมตรเลยทีเดียว และอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับการจัดแสดงโชว์ในงานนี้คือคอนติเนนทัล จีที วี8 เอส (Continental GT V8 S)