VEHICLES

ซูซููกิ ลุ้นขายรถทั้งปีทะลุ 6 หมื่นคัน อีโคคาร์ยังฮอต
POSTED ON 19/11/2556


 

ข่าวยานยนต์ - นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงแผนการตลาดของซูซูกิในช่วงโค้งสุดท้ายของปีว่า กระแสความร้อนแรงของอีโคคาร์น่าจะยังคงมีอยู่และได้การตอบรับจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะซูซูกิ สวิฟท์ล่าสุดบริษัทได้ส่งรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นพิเศษ เป็นแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นสีใหม่ สีเขียวภายใต้คอนเซ็ปต์ "เอ็นเนอร์จี กรีน" เพื่อเป็นการเพิ่มความสดใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ และเป็นการขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ให้การตอบรับรถยนต์ซูซูกิเป็นอย่างดี และยังแสดงให้เห็นว่าสวิฟท์ อีโคคาร์จากซูซูกินั้นเป็นรถยนต์พลังงานสะอาด

 

"เราต้องการตอกย้ำถึงไลฟ์สไตล์ลูกค้า เพราะที่ผ่านมาเราทำการสำรวจลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อรถไปจะมีกลุ่มที่นำรถไปตกแต่งและเปลี่ยนสี เดิมเรามีแค่ 7 สี เที่ยวนี้ก็เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ารวมถึงเป็นการต่อยอดความสำเร็จ"

 

สำหรับรถซูซูกิ สวิฟท์ เอ็นเนอร์จี กรีน โดยนำสวิฟท์รุ่นท็อปมาทำสีพิเศษ ส่วนราคาจำหน่ายยังคงราคาเดิม ส่วนออปชั่นอื่น ๆ เพิ่มเติมนั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ด้านความคืบหน้าของยอดรถค้างส่งมอบสำหรับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 10,000 คัน บริษัทพยายามเคลียร์อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบได้หมดภายในปีนี้

 

"ดูจากกำลังผลิตที่เรามีอยู่เดือนละ 4,000 คันกับปริมาณรถที่มีอยู่ ทันภายในปีนี้แน่นอน แม้จะมีลูกค้าบางส่วนชะลอหรือยืดระยะเวลารับรถออกไป แต่ถือว่าเป็นส่วนที่น้อยมากแค่ 10% และบริษัทได้มีนโยบายให้พนักงานขายติดตามลูกค้าอย่างต่อเนื่อง"

 

บริษัทยังคงยืนยันเป้าหมายการขายของปีนี้ไว้ที่ 60,000 คันเช่นเดิม แม้ว่าสถานการณ์ของตลาดรถยนต์ช่วงที่ผ่านมาอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ถูกนำมาใช้ล่วงหน้าจากโครงการรถยนต์คันแรก

 

แต่สำหรับตัวเลขดังกล่าว ซูซูกิยังคงมีการเติบโตสูงถึง 200% เมื่อเทียบกับยอดขายในปีก่อนที่ทำได้ 24,600 คัน อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความมั่นใจว่าช่วงระยะเวลาที่เหลือและเป้าหมาย 60,000 คันนั้นจะทำได้อย่างแน่นอน โดยในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมามียอดขายไปแล้วกว่า 40,000 คัน

 

ส่วนการตอบรับของรถยนต์ซูซูกิ เออร์ติกานั้นอยู่ในเกณฑ์ดี ยอดขายเฉลี่ยเดือนละ 400 คัน ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ

 

"เป้า 6 หมื่นคันนั้นถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายหากเทียบกับสถานการณ์ของตลาดในปัจจุบัน ซึ่งถือว่ามีความลำบากในการทำตลาดพอสมควร แต่ถ้าผิดพลาดตัวเลขมาแค่ 50,000 กว่าคัน เราก็โตร้อยกว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว ถือว่าน่าพอใจ"

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ