VEHICLES

QUANT e-Sportlimousine เตรียมให้ขับจริงในเยอรมันและทั่วยุโรป
POSTED ON 18/07/2557


 

ข่าวยานยนต์ - QUANT e-Sportlimousine พร้อมด้วยแนวคิดระบบขับเคลื่อน nanoFLOWCELL ได้รับการยอมรับจาก TUV Sud ในมิวนิกให้สามารถใช้จริงบนท้องถนนแล้ว โดย "นายนุนซิโอ ลา เวคเคีย" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของนาโนโฟลว์เซลล์ เอจี ได้รับการส่งมอบป้ายทะเบียนหมายเลข ROD-Q-2014 หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดจาก TUV Sud เรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่า ยานพาหนะระบบ nanoFLOWCELL ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการให้ใช้บนถนนสาธารณะในเยอรมนีและทั่วทั้งยุโรป

 

นายนุนซิโอ ลา เวคเคีย กล่าวอย่างยินดีต่อก้าวย่างสำคัญแห่งการพัฒนาของบริษัทฯ ว่า “นี่เป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ และเป็นเหตุการณ์สำคัญซึ่งไม่ใช่แค่สำหรับบริษัทของเราเท่านั้น แต่อาจรวมถึงการเคลื่อนที่ด้วยพลังงานไฟฟ้าในอนาคตด้วย นับเป็นครั้งแรกที่รถยนต์ซึ่งใช้เทคโนโลยีโฟลว์เซลล์ขับเคลื่อนจะปรากฏบนท้องถนนของเยอรมนี วันนี้ เราได้ผลักดันผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการทุ่มเทพัฒนามาเป็นเวลากว่า 14 ปีให้ใช้งานจริงได้สำเร็จ นี่จึงเป็นเวลาสำหรับการฉลอง เราภูมิใจอย่างยิ่งที่แม้จะเป็นเพียงบริษัทเล็กๆ แต่เราก็สามารถพัฒนาเทคโนโลยีแห่งจินตนาการอย่าง nanoFLOWCELL และยังนำไปใช้งานได้จริงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางเพื่อการค้นหาของเราเท่านั้น”

 

ขณะนี้ทีมงานของนาโนโฟลว์เซลล์ เอจี และหุ้นส่วนกำลังดำเนินการอย่างเร็วที่สุดในการทดสอบ QUANT e-Sportlimousine พร้อมระบบขับเคลื่อน nanoFLOWCELL สำหรับการผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาด

 

“ในการเปิดตัวครั้งแรกของโลกที่เจนีวานั้น นักลงทุนและผู้ผลิตรถจำนวนมากต่างแสดงความสนใจใน QUANT e-Sportlimousine และระบบขับเคลื่อน nanoFLOWCELL รวมทั้งแนวทางในการประยุกต์ใช้งานที่หลากหลายกันอย่างล้นหลาม และในตอนนี้ที่รถของเราได้รับการรับรองให้สามารถขับขี่บนถนนสาธารณะในเยอรมนีและส่วนที่เหลือของยุโรปได้ เราจึงสามารถเจาะลึกการวางแผนงานกับหุ้นส่วนเพื่อต่อยอดการพัฒนาขั้นต่อไปที่น่าตื่นเต้นสู่อนาคตของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคแสดงความเห็นเกี่ยวกับความสนใจอย่างกว้างขวางที่มีต่อเทคโนโลยีขับเคลื่อนยานยนต์อันทันสมัยซึ่งนำเสนอโดย นาโนโฟลว์เซลล์ เอจี  “ความสนใจและกระแสตอบรับในเชิงบวกของ nanoFLOWCELL ทำให้เราเริ่มพิจารณาเกี่ยวกับโอกาสด้านการลงทุนในโครงการ ตลอดจนความเป็นไปได้ในการเสนอขายหุ้นแก่สาธารณะ ซึ่งจะช่วยให้เราผลักดันโอกาสในการประยุกต์ใช้งานอันหลากหลาย และส่งเสริมศักยภาพของเทคโนโลยี nanoFLOWCELL ในระดับสากล โดยขณะนี้เรากำลังวางแผนในขั้นต้น และปรึกษาหารือกันอยู่”

 

นอกจากนี้ นายนุนซิโอ ลา เวคเคีย ยังประเมินโอกาสในอนาคตของ QUANT e-Sportlimousine โดยอ้างถึงรถยนต์อื่นๆที่ผลิตโดยผู้ผลิตเยอรมันในบาวาเรียว่า “ในเยอรมนี โดยเฉพาะที่มิวนิกนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังรายอื่นๆ กำลังโฆษณารถยนต์ไฟฟ้าด้วยสโลแกน 'ERSTER EINER NEUEN ZEIT' ('FIRST IN A NEW AGE') หรือ 'THE MOST PROGRESSIVE SPORTS CAR' เราจึงรู้สึกปลื้มใจในฐานะผู้บุกเบิกที่สามารถนำเสนอรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีโฟลว์เซลล์ได้จริงบนท้องถนน ซึ่งไม่เพียงแต่มีสมรรถภาพที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังไม่ปล่อยมลพิษเลยด้วย ด้วยความเร็วสูงสุดกว่า 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง การเร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ภายในเวลา 2.8 วินาที แรงบิด 4 เท่าของ 2,900 นิวตันเมตร ความยาวกว่า 5.25 เมตร และระยะทางวิ่งมากกว่า 600 กิโลเมตร QUANT e-Sportlimousine 4 ที่นั่งจึงไม่เพียงแต่เป็นรถสปอร์ตที่มาแรงเท่านั้น แต่ยัง 'SEINER ZEIT VORAUS - UND ZWAR SCHON HEUTE' (WELL AHEAD OF ITS TIME - IN FACT TODAY) อีกด้วย

 

“การให้การรับรอง QUANT e-Sportlimousine และแนวคิดการขับเคลื่อน nanoFLOWCELL คือก้าวย่างสำคัญต่อไปสำหรับนาโนโฟลว์เซลล์ เอจี สิ่งที่เริ่มจากจินตนาการได้กลายเป็นจริงแล้วในวันนี้ ซึ่งความจริงที่ว่า QUANT e-Sportlimousine และระบบขับเคลื่อน nanoFLOWCELL ของเราได้รับการรับรองให้ใช้งานบนถนนของเยอรมนีและส่วนที่เหลือของยุโรปในเวลาเพียงแค่ 4 เดือนหลังจากเปิดตัวครั้งแรกต่อโลกที่เจนีวานั้น แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ทีมงานทั้งหมดของเราได้อุทิศให้กับโครงการนี้ เราตั้งตารอการเดินทางอันน่าตื่นเต้นและมีความหวังในระยะต่อๆ ไปอย่างใจจดใจจ่อ” ศ.เจนส์-ปีเตอร์ แอลเลอร์มันน์ ประธานคณะกรรมการนาโนโฟลว์เซลล์ เอจี กล่าว พร้อมกับอธิบายถึงความหลากหลายในการนำ nanoFLOWCELL ไปใช้ “เรามีโครงการใหญ่หลายโครงการ ซึ่งไม่ใช่แค่ในอุตสาหกรรมยานยนต์เท่านั้น ศักยภาพของ nanoFLOWCELL ยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก โดยเฉพาะในแง่ของอุปทานพลังงานในประเทศ รวมไปถึงเทคโนโลยีการเดินเรือ รถไฟ และการบิน นอกจากนี้ nanoFLOWCELL ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างครอบคลุมในฐานะที่เป็นแหล่งพลังงานต้นทุนต่ำ ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”