ข่าวเทคโนโลยี - ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และคณะผู้บริหาร ร่วมลงนามความร่วมมือวิจัย "โครงการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ไดโอดเปล่งแสงสีขาวโดยใช้วัสดุสารกึ่งตัวนำเชิงแสงซิงก์ออกไซด์" กับ นายชัยยุทธ เกียรติภิญโญ ประธานบริหาร บริษัท แม็กซ์ลูเมน จำกัด เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีต้นน้ำอุปกรณ์หลอดไฟแอลอีดีสู่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมหลอดไฟส่องสว่าง ฯลฯ ด้วยงบประมาณ 300 กว่าล้านบาท

ดร.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีหลายประเทศทั่วโลกที่ประกาศต่อต้านและยกเลิกการใช้หลอดไฟฟ้าชนิดหลอดไส้ ดังนั้น จึงต้องการพัฒนาแหล่งกำเนิดแสงใหม่ชนิดต่างๆ เข้ามาแทนที่หลอดไส้ ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมาพบว่า หลอดไฟ แอลอีดีแสงขาวเข้ามามีบทบาทมหาศาลในระบบการส่องสว่างต่างๆ ทั้งในที่พักอาศัย ที่ทำงาน ที่สาธารณะ ห้างร้านสรรพสินค้า ไฟรถยนต์ ฯลฯ

ปัจจุบันหลอดไฟแอลอีดีแสงขาวที่มีขายอยู่ล้วนสร้างมาจากสารประกอบของวัสดุกึ่งตัวนำแกลเลียมไนไตรด์ ซึ่งยังคงมีปัญหาที่สำคัญๆ คือ แสงขาวที่ได้ยังไม่เป็นเหมือนแสงขาวในธรรมชาติ ทำให้เกิดปัญหาต่อตาในการมองเห็นของวัตถุ ซึ่งนานๆ ไปจะทำให้การรับรู้สีของวัตถุเสียไป

นอกจากนั้น หลอดแอลอีดีแสงขาวดังกล่าวยังมีประสิทธิภาพแสงสว่างต่ำ ขณะที่ราคายังสูงอยู่ ด้วยเหตุนี้โครงการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ไดโอดเปล่งแสงสีขาวโดยใช้วัสดุสารกึ่งตัวนำเชิงแสงซิงก์ออกไซด์ โดยความร่วมมือวิจัยของ บ.แม็กซ์ลูเมน กับหน่วยงานวิจัยของ สวทช.ในครั้งนี้ จะสร้างงานวิจัยและพัฒนาในระดับต้นน้ำของอุตสาหกรรมการสร้างหลอดไฟแอลอีดีแสงสีขาวจากวัสดุใหม่ ซึ่งเป็นทางออกที่น่าสนใจจะนำไปสู่การประดิษฐ์อุปกรณ์เปล่งแสงสีขาวประสิทธิภาพสูง และราคาถูก

หากผลงานวิจัยตามโครงการนี้ประสบความสำเร็จ คาดว่าจะได้วิธีหรือกระบวนการในการสร้างชิ้นส่วนต้นน้ำของแอลอีดีแสงขาว ส่งต่อให้ภาคการผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมการประกอบหลอดไฟส่องสว่าง หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยจะสามารถทำให้ประชาชนคนไทยได้ใช้หลอดไฟแอลอีดี ที่มีคุณภาพสูง แทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งจะประหยัดค่าไฟฟ้าลงได้มากกว่า 50% ได้แสงสว่างแบบธรรมชาติ มีอายุการใช้งานนานหลายปี มีความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะส่วนประกอบต่างๆ ไม่เป็นพิษต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม