Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

บริษัท Polyplastics ผู้จัดหาเทอร์โมพลาสติกวิศวกรรมชั้นนำระดับโลก ได้เสร็จสิ้นการศึกษาที่มีความครอบคลุม ซึ่งยืนยันว่าพอลิฟินิลีนซัลไฟด์ (PPS) สามารถใช้ได้กับการฉีดขึ้นรูปแบบกันกระแทก (bump-off molding) ของระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ โดยผลิตภัณฑ์ DURAFIDE PPS แบบเชิงเส้นของ Polyplastics ซึ่งมอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างไนลอน 66 อยู่แล้วนั้น ตอนนี้ยังได้เพิ่มความสามารถด้านการฉีดขึ้นรูปแบบกันกระแทกเข้ามาอีกด้วย เพื่อตัดขั้นตอนการลบคม (deburring) ออกไป

การฉีดขึ้นรูปแบบกันกระแทก (bump-off molding) ส่งผลให้เกิดการตัดส่วนที่กระแทกใน 2 ทิศทาง และขับออกจากพิมพ์โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างการสไลด์ โดยแม่พิมพ์ (mold lip) ถูกตัดทิ้งออกไป ทำให้ไม่ต้องลบคม ก่อนหน้านี้ PPS มีข้อจำกัดในการใช้การฉีดขึ้นรูปแบบกันกระแทกสำหรับชิ้นส่วนวิศวกรรม เนื่องด้วยความเปราะบางแตกหักง่าย

Polyplastics พบว่า วัสดุที่มีการโก่งงอ (bending-fracture strain) ได้สูงในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง (150°C สำหรับ PPS) นั้น เหมาะสำหรับการกันกระแทก (bump-off) ทั้งในแง่ของความเสียหายและเปลี่ยนรูป นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสังเกตเห็นว่า การที่วัสดุโก่งงอได้มากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงนั้น สามารถเป็นได้ด้วยการลดสารเติมแต่งหรือฟิลเลอร์ เพิ่มอิลาสโทเมอร์ และใช้ PPS ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง

Polyplastics ได้แสดงให้เห็นว่า PPS แบบเชิงเส้น (linear) มีการโก่งงอสูงกว่า PPS แบบเชื่อมขวาง (cross-linked) และสามารถเป็นสื่อนำไฟฟ้ามาสู่การฉีดขึ่นรูปแบบกันกระแทกได้มากกว่า ทั้งนี้ พบว่าผลิตภัณฑ์ DURAFIDE PPS ของ Polyplastics เหมาะสำหรับการกันกระแทกจากความเหนียว (toughness) ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง โดยในบรรดาวัสดุ DURAFIDE PPS ปรากฏว่า PPS ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงอย่าง 1130A1 (GF30%) และ 1140A1 (GF40%) มีประโยชน์สำหรับการกันกระแทก

Polyplastics เชื่อว่า DURAFIDE PPS ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ และเชื่อว่าการกันกระแทกช่วยลดขั้นตอนการลบคม ทั้งยังมอบอิสระในการออกแบบ นอกจากนี้ DURAFIDE PPS ยังสามารถต้านทานความร้อนสูง โดยมีอุณหภูมิทำงาน (service temperature) ต่อเนื่องในช่วง 200-240 °C นอกจากนี้ ยังต้านทานเคมีได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับฟลูออโรพอลิเมอร์ และมีความเสถียรเชิงมิติ (dimensional stability) มากกว่า ขณะที่มีการดูดซึมไฮโดรไลซิส/น้ำน้อยกว่า เมื่อเทียบกับไนลอน 66