TECHNOLOGY

เดลล์ อีเอ็มซี ส่ง Z9264F-ON ใหม่ ความเร็ว 100GbE รองรับข้อมูลและควบคุมโครงข่ายลูกค้าอุตสาหกรรมเต็ม
POSTED ON 29/08/2561


เดลล์ อีเอ็มซี ผู้ริเริ่มการเชื่อมต่อเครือข่ายระบบเปิด (Open Networking) เปิดตัว Z9264F-ON แฟบริค สวิตช์ ความเร็ว 100GbE ใน Z-series รุ่นล่าสุด ที่ให้ความสามารถเพิ่มถึง 2 เท่าตัว พร้อมมอบชุดโซลูชันระบบเปิดที่สมบูรณ์ สำหรับองค์กรเอ็นเตอร์ไพร์ซที่ทันสมัย และดาต้าเซ็นเตอร์ในส่วนของผู้ให้บริการ

 

นายทอม เบิร์นส์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป Dell EMC Networking and Solutions เผยว่า เป็นเวลากว่า 4 ปีมาแล้ว ที่เดลล์ อีเอ็มซี ได้ส่ง Open Networking ออกมาท้าทายมาตรฐานอุตสาหกรรม ด้วยการแยกพื้นฐานโครงสร้างฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ออกจากกัน โดยนับแต่นั้นเป็นต้นมา เดลล์ อีเอ็มซี ได้ปฏิรูปสายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเพื่อตอบรับวิสัยทัศน์ในเรื่องนี้ ด้วยการช่วยให้ลูกค้าองค์กรทุกขนาดมีทางเลือกมากที่สุดและได้รับศักยภาพสูงสุดจากการใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์ตลอดจนถึงปลายทางเครือข่าย หรือ edge ซึ่ง Z9264F-ON ทำให้วิสัยทัศน์นี้ก้าวหน้า ด้วยการนำ Open Networking มาสู่ silicon ที่ทันสมัย ช่วยให้ใช้งาน 100GbE ได้โดยให้ความหนาแน่นมากขึ้น และช่วยให้ดาต้าเซ็นเตอร์เร็วขึ้นในภาพรวม

 

“แพลตฟอร์มใหม่นี้ ได้รับขุมพลังจาก StrataXGS(R) Tomahawk(R) II ซึ่งเป็น 6.4 Terabit/second Ethernet switching silicon ของ Broadcom สร้างขึ้นเพื่อเป็นโครงสร้างหลักของดาต้าเซ็นเตอร์ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงโดยเฉพาะ หรือ แฟบริค แอปพลิเคชัน ที่ให้ความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างแร็คในดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยความเร็วมากเป็นพิเศษ ให้ 64 พอร์ตที่ความเร็ว 100GbE ในฟอร์มแฟกเตอร์ 2RU ขนาดกะทัดรัด ทั้งนี้ Z9264F-ON ใหม่นี้ นับเป็นผลิตภัณฑ์ในอุดมคติสำหรับลูกค้าที่อยากเลิกใช้ระบบ chassis switching แบบเดิมที่มีค่าใช้จ่ายแพง ในขณะเดียวกันก็อยากเร่งเปลี่ยนจาก 40GbE เป็น 100GbE”

ลูกค้าของเราที่เป็นองค์กรเอ็นเตอร์ไพร์ซและผู้ให้บริการ มีความต้องการที่ชัดเจนในเรื่องโซลูชันนวัตกรรมและการเชื่อมต่อเครือข่ายระบบเปิด สำหรับระบบโครงสร้างดาต้าเซ็นเตอร์" กล่าว "Z9264F-ON ใหม่ มอบในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ด้วยแพลตฟอร์ม 100GbE switching ที่ให้ศักยภาพสูงสุดในอุตสาหกรรม และช่วยให้ลูกค้าควบคุมการใช้งานเครือข่ายและระบบโครงสร้างของตนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ดาต้าเซ็นเตอร์ ยังคงทำหน้าที่เป็นรากฐานของส่วนปฏิบัติการไอทีและการให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของดาต้าเซ็นเตอร์ที่อยู่ที่ไซต์งาน (on premise) หรือการโฮสต์ หรือกระทั่งที่อยู่ในรูปแบบของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านคลาวด์ กำลังมาแรง โดยในสภาพแวดล้อมระบบงานทั้งหมด เครือข่ายนับเป็นสิ่งสำคัญที่มอบศักยภาพด้านการเชื่อมต่อภายในและระหว่างแร็คของดาต้าเซ็นเตอร์ รวมถึงระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยกันเอง ออกไปยัง edge และสุดท้ายไปถึงผู้ใช้ปลายทาง สิ่งที่มาพร้อมๆกันคือ การนำเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชั่น และระบบอัตโนมัติมาใช้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลง สถาปัตยกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ในระดับพื้นฐาน ผลักดันให้เกิดเลเยอร์ของอุปกรณ์ และเร่งให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างองค์ประกอบด้านสตอเรจกับส่วนประมวลผล เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนทั่วไป ตั้งแต่สภาพแวดล้อมแบบไฮเปอร์-คอนเวิร์จ ตลอดจนสภาพแวดล้อมแบบไฮเปอร์-สเกล

การเปลี่ยนแปลงด้านสถาปัตยกรรมนี้ ตอบโจทย์ความต้องการเพิ่มขึ้นของผู้ซื้อที่เป็นองค์กรเอ็นเตอร์ไพร์ซและผู้ให้บริการ เพราะช่วยให้องค์กรเหล่านี้สามารถตัดสินใจซื้อฮาร์ดแวร์เน็ตเวิร์ก และซอฟต์แวร์ที่เลือกได้อย่างอิสระ การแยกองค์ประกอบเทคโนโลยีในระดับนี้ ที่เดลล์ อีเอ็มซี เรียกว่า Open Networking เป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนสู่ระบบเครือข่ายที่กำหนดการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ หรือ (SDN – software-defined networking) ในลักษณะที่เป็นทางเลือกซอฟต์แวร์เชื่อมต่อเครือข่าย และเป็นการเพิ่มความสามารถมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Z9264F-ON ใหม่ ก็นำโมเดลการใช้งานแบบใหม่ที่ว่า มาช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกด้านซอฟต์แวร์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ซอฟต์แวร์คอมเมอร์เชียล หรือโอเพ่น ซอร์ส มากกว่าตัวเลือกที่แข่งขันกันอยู่ นับเป็นการเปิดประตูสู่นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ประหยัดมากขึ้น และควบคุมการทำงานได้เหนือชั้นยิ่งขึ้น