TECHNOLOGY

จีอี ขึ้นแท่นผู้ขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในโลก
POSTED ON 27/07/2559


 

เทคโนโลยีอุตสาหกรรม 27 ก.ค.2559 - จีอี (GE) และการไฟฟ้าฝรั่งเศส หรือ EDF (Electricity of France) เริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในเมืองบูแชงประเทศฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการ โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เครื่องกังหันก๊าซรุ่น HA ของจีอี ซึ่งการเริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าครั้งนี้นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการบูรณาการระบบดิจิทัลเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์

 

ในโอกาสนี้ จีอียังประกาศด้วยว่า กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ได้บันทึกให้จีอีเป็นผู้ขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของโลก จากการที่โรงไฟฟ้าในเมืองบูแชงแห่งนี้มีประสิทธิภาพการทำงานในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 62.22

 

นายสตีฟ บอลเซ่ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของจีอี พาวเวอร์ กล่าวว่า “วันนี้เราได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเปิดตัวโรงไฟฟ้าแห่งอนาคต เรายินดีที่ได้รับการบันทึกในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ในฐานะผู้สร้างระบบให้แก่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของโลก เราภูมิใจที่เครื่องกังหันก๊าซของจีอีได้มอบความน่าเชื่อถือและความยืดหยุ่นระดับแนวหน้าของวงการให้กับลูกค้าของเรา จีอีมุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับ EDF และส่งมอบบริการที่จะช่วยให้โรงไฟฟ้าในบูแชงเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องในอนาคต”

 

เครื่องกังหันก๊าซรุ่น HA ของจีอี ไม่เพียงมีประสิทธิภาพสูงเหนือชั้น หากแต่ยังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถเดินเครื่องได้เต็มพิกัดภายในระยะเวลาไม่ถึง 30 นาที ทั้งยังช่วยให้พันธมิตรของจีอีสามารถใช้พลังงานทดแทนได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการไฟฟ้าในระบบที่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงอยู่ตลอดได้อย่างรวดเร็ว และปรับตัวต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที

 

ความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีดังกล่าวสอดคล้องกับข้อตกลงปารีสที่จัดทำขึ้นในระหว่างการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 21 (COP21) โดยผู้แทนจาก 195 ประเทศที่เข้าร่วมประชุมได้ให้ปฏิญญาไว้ว่าจะช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และให้ความสำคัญต่อการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้มากยิ่งขึ้น

 

ด้าน นายฌ็อง –เบอร์นาร์ด เลวี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EDF กล่าวว่า “การที่อีดีเอฟเลือกพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังความร้อนรุ่นใหม่นี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตลาดมาขับเคลื่อนให้โรงไฟฟ้าพลังความร้อนของประเทศให้มีประสิทธิภาพด้านพลังงานที่สูงขึ้น ตลอดจนช่วยสนับสนุนช่วงเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน สิ่งเหล่านี้ช่วยยืนยันถึงความตั้งใจปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาด้านนวัตกรรมภายใต้กลยุทธ์ CAP2030”

 

โรงไฟฟ้าบูแชง แสดงให้เห็นถึงความสามารถของโรงไฟฟ้าระบบดิจิทัลของจีอี ที่ช่วยให้การผลิตไฟฟ้าเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถนำพลังงานที่เคยสูญเสียไปกับระบบกลับมาใช้ได้ โดยจีอีใช้ประโยชน์จากข้อมูลแบบเรียลไทม์ในการขับเคลื่อนการทำงานของระบบ รวมถึงการควบคุมระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ ทั้งยังให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ซึ่งส่งผลให้เกิดความน่าเชื่อถือและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างสูงสุด

 

โรงไฟฟ้าบูแชงมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าสูงกว่า 605 เมกะวัตต์ หรือมากเพียงพอที่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่บ้านเรือนกว่า 680,000 หลังคาเรือน นอกจากนี้ อัตราการไหลเวียนของอากาศในคอมเพรสเซอร์ของเครื่องกังหันก๊าซรุ่น HA นั้นเคลื่อนที่เร็วมากเพียงพอที่จะเร่งเครื่องเรือเหาะกู๊ดเยียร์ได้ภายในเวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้น และส่วนปลายสุดของใบพัดของเครื่องกังหันก๊าซรุ่น 9HA.01 จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วถึง 1,200 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 1,931 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ที่เร็วกว่าเสียงถึง 1.5 เท่า

 

นายโจ แมสเตรนเจโล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านก๊าซ พาวเวอร์ ซิสเตมส์ ของ จีอี พาวเวอร์ กล่าวว่า “การเปิดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญของจีอีในอุตสาหกรรมพลังงาน ความสำเร็จนี้มิอาจเกิดขึ้นได้เลยหากปราศจากความมุ่งมั่นทุ่มเทและความอุตสาหะของพนักงานจีอี และ EDF จำนวนมากทั่วโลก ที่ต่างมุ่งมั่นเดินหน้าสู่การใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จีอีมีสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่สามารถร่วมประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ ได้ โดยผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ และบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์ดังกล่าว”

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics