ข่าวเทคโนโลยี - JA Solar Holdings Co., Ltd. (JA Solar) หนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เซลล์แสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูงรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการผลิตโซลาร์เซลล์ PERCIUM ในระดับอุตสาหกรรมไปเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา โดยโซลาร์เซลล์ PERCIUM เป็นโซลาเซลล์ P-TYPE ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพการแปลงพลังงานสูงกว่า 20% โดยมีประสิทธิภาพเฉลี่ยที่ระดับ 20.4% และคาดว่าโมดูลโซลาร์เซลล์ PERCIUM ขนาด 6x10 เซลล์ ซึ่งมีอัตราการผลิตไฟฟ้าเฉลี่ย 285 วัตต์ จะสามารถเริ่มทำการผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2557 นี้

ทั้งนี้ การเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการผลิตในระดับอุตสาหกรรมใช้ระยะเวลาเพียง 3 เดือนนับจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เมื่อต้นปี และคาดว่าโมดูล PERCIUM จะมีอัตราการผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยถึงระดับ 290 วัตต์ภายในสิ้นปีนี้

ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานและความน่าเชื่อถือที่อยู่ในระดับสูง ถือเป็น 2 ปัจจัยสำคัญที่อุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ยกให้เป็นความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่ง และเป็นสิ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ JA Solar มีความโดดเด่นมากกว่าใคร เมื่อช่วงต้นปีนี้ JA Solar ได้เปิดตัวโมดูลโซลาร์เซลล์ PERCIUM ขนาด 6x10 เซลล์ในญี่ปุ่น อังกฤษ อิสราเอล จีน และเยอรมนี และได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากตลาดยุโรปและญี่ปุ่น และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา JA Solar ก็ได้รับการสอบถามและคำสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก

เพื่อรองรับอุปสงค์จากลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง JA Solar ได้เตรียมการสำหรับดำเนินการผลิตในระดับอุตสาหกรรมเสร็จสมบูรณ์ในระยะเวลาไม่นาน และจะทำการเพิ่มศักยภาพของโซลาร์เซลล์ PERCIUM ต่อไปในอนาคต ปัจจุบันบริษัทมีสายการผลิตโซลาร์เซลล์ PERCIUM เพียงสายเดียว แต่จะเพิ่มเป็น 4 สายในเดือนตุลาคม ก่อนจะเป็น 8 สายภายในปี 2558 และคาดว่ากำลังการผลิตโซลาร์เซลล์ PERCIUM จะแตะที่ 170 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ และ 350 เมกะวัตต์ในปีหน้า

“ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานในระดับสูงสามารถทำให้ต้นทุนระบบต่อวัตต์ต่ำลงได้ ซึ่งหมายถึงต้นทุนของอุปกรณ์ประกอบระบบอื่นๆ การขนส่ง การติดตั้ง และที่ดินก็จะถูกลงด้วย” นายหยง หลิว ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ JA Solar กล่าว “โซลาร์เซลล์ PERCIUM ใช้เทคโนโลยี BSF และ Passivated backside เพื่อรับประกันประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของโมดูลโซลาร์เซลล์ PERCIUM ในขณะที่มีแสงสลัว ประสิทธิภาพด้านต้นทุนระบบที่อยู่ในระดับสูงจึงสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงได้”