ข่าวเทคโนโลยี - MTS เผยตัวเลขการก่อสร้างเติบโตตามภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ผ่านมามีก่อสร้างหลายโปรเจ็ค โดยผู้รับเหมาและบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ล้วนให้ความสำคัญกับเครื่องมือในการก่อสร้าง ซึ่งต้องมีประสิทธิภาพ ทันสมัย รวมถึงมีระบบการดูแลรักษาและให้บริการที่ดี ที่ผ่านมาลู่ทางสดใส มูลค่าตลาดเช่า-ซื้อ สำหรับเครื่องจักรกลหนักสูงกว่าหมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัท เอ็มทีเอส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์เร้นทัล จำกัด ครองส่วนแบ่งการตลาดติด 1 ใน 5 หรือราว 32.7% เผยกุญแจแห่งความสำเร็จ อยู่ที่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกลหนัก รถกระเช้า เครื่องลม และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า พร้อมด้วยนโยบายการทำธุรกิจ จัดหาสินค้าคุณภาพ มาตรฐานสากล และบริการหลังการขายชั้นยอด ที่ไม่เคยปล่อยให้เครื่องจักรที่ซื้อจาก MTS ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจตลอดระยะเวลา 23 ปี ที่พร้อมจะรุกตลาดแบบครบวงจรเต็มตัว

นายสุเทพ กุลถวายพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มทีเอส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์เร้นทัล จำกัด เผยจุดแข็งในการก้าวขึ้นสู่ผู้นำตลาดเครื่องจักรฯ โดยเฉพาะรถกระเช้าว่า “เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจทำให้ตลาดอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งสภาพแวดล้อมและสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้ผู้ประกอบการ และแรงงานต่างคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกในการทำงานและประหยัดเวลามากขึ้น ดังนั้นตลาดเครื่องจักรและรถกระเช้าจึงเติบโตและแพร่หลายมากขึ้น โดยตอนนี้ MTS มีการปรับปรุงนโยบายมุ่งเน้นและสนับสนุนผู้ใช้งาน พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นระบบงาน การซ่อมบำรุง การดูแลเครื่องจักรอย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งาน ให้กับผู้ใช้ บริษัท ก่อสร้าง และผู้ดำเนินธุรกิจให้เช่า หรือแม้กระทั่งผู้ที่อยากเป็นตัวแทนจำหน่ายในราคาพิเศษ

เครื่องจักรใหม่ พระเอกในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้าง

• แบรนด์ JLG รุ่น 4069LE  รถกระเช้าไฟฟ้าสูง 12 เมตร รับน้ำหนักได้กว่า 360 กิโลกรัม ทำงานเงียบ เคลื่อนย้ายง่าย เหมาะกับงานภายในอาคารที่ต้องทำบนที่สูง

• แบรนด์ SEM รุ่น 616B รถตักล้อยางรุ่นพิเศษ Two in One สามารถเปลี่ยนจากบุ้งกี๋เป็นงา Forklift ได้ภายใน 1 นาที ผลิตภายใต้มาตรฐานของโรงงาน CATERPILLAR

• แบรนด์ FEELER รุ่น FD30CTJ รถยกแบรนด์ชั้นนำจากไต้หวันที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างคุ้มค่าพร้อมอุปกรณ์เสริมมากมายที่มีมาตรฐานมากว่าแบรนด์อื่นๆที่ต้องซื้อเพิ่ม

แผนการตลาดในช่วงปลายปี 2556 บริษัทฯมีแผนจะทำตลาดให้ครบวงจรมากขึ้น กล่าวคือ จากเดิมที่ MTS เน้นให้บริการด้านการเช่า เนื่องจากตลาดยังอยู่ในวงจำกัด และผลิตภัณฑ์ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย แต่ในปัจจุบันความต้องการของตลาดที่มุ่งเน้นความปลอดภัยและประสิทธิภาพของเครื่องจักร โดยต้องการบุกตลาดขายมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการจากโครงการต่างๆที่จะเปิดรับ AEC โดยเน้นย้ำถึงความพร้อมในคุณภาพและบริการที่เป็นสากล ซึ่งที่ผ่านมาความโดดเด่นของบริษัทฯคือ การยึดหลักความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ใช้บริการ การจัดหาสินค้าคุณภาพ มาตรฐานสากล บริการหลังการขายชั้นยอด และการให้คำปรึกษา แนะนำลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการ ด้วยทีมช่างที่มีความชำนาญ และเป็นกันเอง จึงเชื่อว่า MTS จะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำตลาดแบบครบวงจรได้อย่างแน่นอน