SPECIAL FEATURES

โซลูชั่นการจัดการพลังงานครบวงจรช่วยให้โรงเรียนต้นแบบสามารถประหยัดพลังงานได้มากถึง 25%
POSTED ON 26/12/2556


 

การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียนและการสร้างความแข็งแกร่งให้กับสภาพแวดล้อมการทำงานทรัพยากร และระบบอัตโนมัติของโรงเรียน คือ เป้าหมายหลักส่วนหนึ่งของกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์ของประเทศโปรตุเกส ดังนั้น เมื่อต้นทุนทางพลังงานถีบตัวสูงขึ้นอย่างมากหลังจากการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนมัธยมในรัฐต่างๆ ของประเทศให้ทันสมัยมากขึ้น ทางกระทรวงฯ จึงตระหนักว่าต้องมีการดำเนินการบางอย่างเพื่อควบคุมปริมาณการใช้พลังงานของโรงเรียนจำนวนมากเหล่านี้

 

ปริมาณการใช้งานพลังงานที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่มีการคาดการณ์ไว้อยู่แล้วในบางส่วน เนื่องจากมีการติดตั้งระบบปรับอากาศใหม่และอุปกรณ์เทคโนโลยีข้อมูลและการติดต่อสื่อสาร (ICT) เพิ่มเติมในระหว่างการปรับปรุง ซึ่งรวมถึงเครื่องซีพี โทรศัพท์ไอพี และอุปกรณ์เครือข่าย เพื่อให้สามารถระบุและทดสอบโซลูชั่นที่จะช่วยในการแก้ปัญหาดังกล่าว ทางกระทรวงฯ จึงได้จับมือกับ Connected Urban Development (CUD) ในการจัดทำโครงการ Smart Urban Energy for Schools ความร่วมมือดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค และสมาชิกในกลุ่ม EcoStruxure Technology Partnership Programme, Cisco Systems และ Verdiem รวมถึงหน่วยงานไฟฟ้าในพื้นที่ มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาโซลูชั่นลดการใช้พลังงานแบบติดตั้งเพิ่มที่มีราคาถูก พร้อมทั้งค้นหาวิธีที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัย

 

Energy STEP@Work เปลี่ยนข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้สามารถมองเห็นและควบคุมภาพรวมได้อย่างชัดเจน

 

โซลูชั่นที่โดดเด่นเพียงหนึ่งเดียวได้ถูกนำมาใช้กับโรงเรียนต้นแบบ 3 แห่งในกรุงลิสบอน โซลูชั่นดังกล่าวคือ EnergySTEP@Work จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค โครงการจัดการพลังงานสำหรับระบบ ICT แบบครบวงจรนี้สามารถรวบรวมข้อมูลการใช้พลังงานจากแหล่งพบังงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าไว้ในระบบเครือข่ายไอพีหนึ่งเดียว ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบและควบคุมการใช้พลังงานของคอมพิวเตอร์พีซีและอุปกรณ์แบบจ่ายไฟฟ้าผ่านอินเตอร์เน็ต (PoE) ได้ในแบบเรียลไทม์

 

นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งและใช้งานร่วมกับระบบบริหารจัดการอาคารในส่วนของระบบ HVAC และระบบแสงสว่างที่มีอยู่เดิมเช่นกันทำให้สามารถควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างเต็มรูปแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ โซลูชั่นดังกล่าวมีการทำงานโดยใช้ระบบ Cisco Energy Wise ซึ่งประกอบด้วยสวิตช์ Catalyst ประสิทธิภาพสูง พร้อมด้วยความสามารถจากซอฟแวร์ Verdiem Surveyor

 

EnergySTEP@Work สามารถจัดการการใช้พลังงานในจุดที่มีการใช้งานอุปกรณ์ไอทีและปลั๊กไฟขนาดเล็กแยกต่างหากจำนวนมาก ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 20 - 40 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมดภายในองค์กรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่จำเป็นต้องมีการใช้งานคอมพิวเตอร์พีซีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกส่วนตัวเป็นจำนวนมาก โซลูชั่นนี้ช่วยเปลี่ยนการใช้พลังงานของโรงเรียนทั้ง 3 แห่งในกรุงลิบอนที่ในอดีตไม่มีการตรวจสอบและควบคุม ให้กลายเป็นการใช้พลังงานที่ตรวจสอบได้ ควบคุมได้ และมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

สำหรับโรงเรียนในโครงการนำร่องทั้ง 3 โรงเรียนในกรุงลิสบอน การประหยัดพลังงานเป็นผลมาจากการควบคุมผ่านเครือข่าย ซึ่งทำหน้าที่กำหนดเวลาเปิด-ปิดระบบระบายอากาศ และปรับอากาศ (HVAC) ระบบแสงสว่าง และอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ให้ตรงกับช่วงเวลาเปิดทำการของโรงเรียน การกำหนดเวลาเปิด-ปิดนี้สามารถทำได้ถึงแม้ว่าอาคารเรียน ซึ่งมีทั้งหมด 10 หลัง จะมีประเภทอุปกรณ์และเวลาเปิดทำการที่แตกต่างกันออกไป

 

ตัวอย่างเช่น ในช่วงกลางคืนจะมีการปิดใช้งานโทรศัพท์ฉุกเฉินนั้นยังคงสามารถใช้งานได้ ระบบแสงสว่างส่วนกลางและระบบระบายอากาศและปรับอากาศ (HVAC) จะปิดการทำงานในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ซึ่งไม่มีคนอยู่ภายในอาคารแล้ว เครื่องมือและการแสดงผลแบบอินเตอร์แอคทีฟผ่านเว็บ 2.0 พร้อมข้อมูลแบบเรียลไทม์ เกณฑ์มาตรฐาน และโปรแกรมคำนวณมลพิษทางคาร์บอนมีส่วนช่วยในการส่งเสริมความตื่นตัวด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมให้เพิ่มมากขึ้นสำหรับทั้งนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียน

 

โครงการนี้ส่งผลที่ชัดเจนต่อปริมาณการใช้พลังงานและต่อตัวนักเรียนเองด้วยเช่นกัน

 

ความสำเร็จในการลดปริมาณการใช้พลังงานของโรงเรียนในโครงการนำร่องช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างเห็นได้ชัด โดยเงินที่ประหยัดได้นั้นจะถูกนำไปใช้ในการเพิ่มทุนดำเนินการ การฝึกอบรมครู รวมทั้งโครงการริเริ่มอื่นๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกัน จากข้อมูลที่ได้รับพบว่า การควบคุมที่เป็นหนึ่งสำหรับระบบไอซีที ระบบแสงสว่างและระบบระบายอากาศ และปรับอากาศ (HVAC) ของโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการ ส่งผลให้สามารถลดการใช้พลังงานลงได้ 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเท่ากับประหยัดเงินได้มากถึงประมาณ 10,000 ยูโรต่อปี

 

ถ้าหากมีการนำโซลูชั่นเดียวกันนี้ไปใช้กับทุกโรงเรียน จำนวนเงินที่ประหยัดได้ในแต่ละปีนั้นจะสูงเกือบ 3 ล้านยูโรต่อปี

 

โครงการ EnergySTEP@Work ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเรียนรู้นอกห้องเรียนอีกด้วย โดยนักเรียนสามารถรับบทบาทเป็นผู้ทดสอบและผู้ประเมิน รวมทั้งยังสามารถมีส่วนร่วมกับการใช้งานและการกำหนดรูปแบบของโซลูชั่นได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย โดยโรงเรียนสามารถกำหนดให้งานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็คในปีสุดท้ายของการเรียน ผลลัพธ์จากโครงการดังกล่าวยังให้ประโยชน์เพิ่มเติมในระยะยาวอีกด้วย เช่น นักเรียนหลายๆ คนมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้พลังงาน รวมถึงมุมมองเกี่ยวกับการใช้พลังงานในอนาคต รวมทั้งยังเกิดแรงจูงใจให้ก้าวเข้าสู่อาชีพในด้านวิทยาศาสตร์ให้ก้าวเข้าสู่อาชีพในด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย