MOVEMENT NEWS

กระทรวงอุตฯ เร่งผลักดันศักยภาพอุตฯภาคใต้
POSTED ON 29/09/2561


กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมหารือเครือข่ายภาครัฐ เอกชน 14 จังหวัดภาคใต้ กางแผนขับเคลื่อน SMEs 4.0 ในพื้นที่ บูมศักยภาพอุตสาหกรรมภาคใต้ให้ติดลมบน พร้อมชักชวน Big Brother ร่วมพัฒนา Factory 4.0 รุกตั้งศูนย์ฮาลาลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังสร้างระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นโตต่อเนื่อง จัดติวเข้มมาตรการทางการเงินแก่ SMEs ให้ใช้บัญชีเดียวเปิดทางสู่โลกการค้ายุคใหม่ สอดคล้องนโยบายThailand 4.0 ได้อย่างตรงจุด

นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อน SMEs 4.0 ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรม SME สัญจร : พลิกธุรกิจสู่อุตสาหกรรม 4.0 ครั้งที่ 4 จังหวัดสงขลา มีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนภาคเอกชนในพื้นที่เข้าร่วมหารือ

 

โดยเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ภาคใต้ได้นำเสนอ flagship ที่ตอบสนองต่อ ความต้องการของพื้นจำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการการพัฒนาอุตสาหกรรมไม้ยางพารา และยางพาราครบวงจร มุ่งหวังให้ “ไม้ยางพาราไทยสู่ไม้ยางพาราโลก” โดยการยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถ SMEs และอุตสาหกรรมไม้ยางพาราทั้งระบบสู่อุตสาหกรรม 4.0 รวมทั้งส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมไม้ยางพารา และการสร้างมูลค่าเพิ่มวัสดุเหลือใช้ และสนับสนุนการดำเนินการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และการจัดการอย่างยั่งยืน

 

2.โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราครบวงจร สร้างและพัฒนาผู้ประกอบการยางพาราพันธ์ใหม่ การต่อยอดขยายผลและขอบเขตการใช้งานของวัตถุอิบยางพาราเพื่อใช้ในวงการอื่นๆ การรวบรวมผลิตภัณฑ์ยางพาราที่มีทั่วโลก

 

3. โครงการจัดตั้งศูนย์รับรองมาตรฐานฮาลาล เพื่ออำนวยความสะดวกในการขอรับรองตราสัญลักษณ์ ฮาลาล ซึ่งจากที่ปัจจุบันต้องส่งเอกสารไปยังสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยก็สามารถขอได้ ในพื้นที่ภาคใต้ โดยคาดว่าหากมีการจัดตั้งศูนย์ฯ แล้วจะส่งผลให้มีสินค้าและบริการที่ได้รับเครื่องหมายฮาลาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 30

 

4. โครงการ CIV4.0 เพื่อพัฒนาต่อยอด CIV ทั้ง 5 จังหวัด และ 5.โครงการ Hand in Hand & Marketing Hub มุ่งส่งเสริมและพัฒนาการแปรรูปจากยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ด้วยการส่งเสริมให้ภาคใต้ของไทย เป็นฐานของการประกอบธุรกิจการบริการ และการลงทุน สร้างความเป็นหุ้นส่วนกับการพัฒนาประเทศเชื่อมโยงกับภูมิภาค

 

“ทั้ง 5 flagship จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ (New-Growth Engine) ส่งเสริมให้เกิด การเชื่อมโยงทางการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน ควบคู่ไปกับการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค และการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ชายแดน และจังหวัดในภาคใต้ รวมทั้งเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการจัดระบบการสะสมเทคโนโลยีอย่างยั่งยืนในทุกมิติ สามารถ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น” นายสมชาย กล่าว