อุตสาหกรรมการผลิต - นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตปูน "ทีพีไอ" เปิดเผยว่า ขณะนี้การแข่งขันธุรกิจปูนซีเมนต์ในต่างประเทศค่อนข้างเหนื่อย เนื่องจากมีปูนซีเมนต์ราคาถูกจากเวียดนามระบาดหนักไปทั่วทั้งในกัมพูชา และบังกลาเทศ และในประเทศใกล้เคียงอื่นๆ ขณะที่ปูนซีเมนต์ที่ออกมาบางส่วนก็คุณภาพไม่ดี 

ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เวียดนามให้ความสำคัญกับการลงทุนอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ทำให้ปัจจุบันมีกำลังผลิตสูงถึง 70 ล้านตันต่อปี มีความต้องการใช้ในประเทศใกล้เคียงไทยคือระหว่าง 33-36 ล้านตันต่อปี โดยไทยมีปริมาณผลิตรวมอยู่ที่ 50-55 ล้านตันต่อปี

"เดิมเวียดนามต้องนำเข้าจากไทย พอสร้างโรงงานเสร็จมีการผลิตในประเทศ ก็ขายไม่เป็น จึงต้องระบายออกนอกประเทศราว 20 ล้านตัน กระจายไปทั่ว แต่อย่างไรก็ตาม ราคาปูนซีเมนต์ในประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศที่สูงกว่าไทย เพราะต้องบวกค่าขนส่งเข้าไปด้วย" นายประชัย กล่าว

ขณะที่ นายนภดล รมยะรูป กรรมการผู้จัดการบริษัท ปูนซีเมนต์เอเซีย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ตรา "ดอกบัว" เปิดเผยว่า ราคาปูนซีเมนต์ภายในประเทศขณะนี้เท่ากับราคาเมื่อ 8 ปีที่แล้ว โดยราคายังเฉลี่ยอยู่ที่ราว 2 พันบาทต่อตัน ราคานี้จะขึ้นอยู่กับระยะทางจากโรงงานไปยังผู้ใช้ปลายทาง ซึ่งราคาปูนซีเมนต์ในประเทศไทยถูกที่สุดเมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศในอาเซียน

"ตลาดอาเซียนเป็นตลาดปกติที่เราค้าขายอยู่ ปูนเอเซียส่งออกไปพม่าและกัมพูชารวมแล้ว 5-6 แสนตันต่อปี โดยใช้แบรนด์ท้องถิ่น ทั้งนี้ ในปี 2557 การส่งออกปูนไปประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้นหรือไม่จะต้องดูความต้องการใช้ใน 2 ประเทศนี้ก่อน โดยจุดยืนไม่เน้นที่จะเป็นเบอร์ 1 หรือเบอร์ 2  แต่จะดูที่ความเหมาะสมของตลาดมากกว่า" นายนภดล กล่าวเสริม

ส่วนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งด้วยงบ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลนั้น มองว่ายังไม่เป็นจุดที่ทำให้บริษัทฯ ต้องเพิ่มกำลังผลิตปูนซีเมนต์ในช่วงนี้ เพราะยังไม่ได้รับอานิสงส์ภายใน 5 ปี หลังจากที่งบประมาณลงระบบ  เพราะจะต้องรอให้เกิดระบบราง และลงทุนด้านรถไฟฟ้าก่อน หลังจากนั้นจะเกิดการลงทุนที่อยู่อาศัยตามแนวระบบรางธุรกิจปูนซีเมนต์ในประเทศถึงจะได้อานิสงส์เต็มที่จากการก่อสร้างที่อยู่อาศัย

"ผมยังเชื่อว่า 5 ปีจากนี้ไปปูนซีเมนต์ในประเทศยังไม่ขาดแคลน ส่วนราคาปูนซีเมนต์จะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายตามค่าครองชีพ ค่าแรงงานที่สูงขึ้น ทำให้ราคาปูนซีเมนต์จะเคลื่อนไหวตามต้นทุนรวมที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นๆ" นายนภดล กล่าว

สำหรับตัวเลขกำลังผลิตรวมของปูนเอเซียอยู่ที่ 7.3 ล้านตันต่อปี ขณะนี้ยังไม่มีแผนขยายกำลังผลิตเพิ่ม แต่จะให้ความสำคัญในการพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น คุณภาพดีขึ้น โดยตั้งเป้าว่าปี 2557 จะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากประมาณ 1 หมื่นล้านบาทเมื่อปีที่แล้วเป็น 1.2 หมื่นล้านบาท

ด้าน ดร.ปรัชญา จันทราทิพย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท ปูนซีเมนต์เอเซีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2557 จะมาจาก (1) มีการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น (2) ตัวสินค้ามีคุณภาพดีขึ้น (3) มุ่งเจาะตลาดที่คิดว่าแข็งแรง โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัย และตลาดโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล เช่น สายสีแดง การสร้างรัฐสภา เป็นต้น ส่วนตลาดซ่อมแซมจะเป็นตัวเสริม และ (4) มีปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น เหล่านี้คือเป้าหมายและจุดยืนของบริษัทที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องแม้ราคาไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นเวลาหลายปีก็ตาม