MANUFACTURING

เมอร์เมด มาริไทม์ เตรียมลงทุนผุดกองเรือเพิ่ม หลังเรือขุดน้ำมันขาดแคลนหนัก
POSTED ON 14/01/2557


อุตสาหกรรมการผลิต - นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเรือขุดเจาะนอกชายฝั่งและบริการวิศวกรรมใต้ทะเลชั้นนำ เปิดเผยว่า ขณะนี้เรือขุดเจาะปิโตรเลียมทั่วโลก กำลังอยู่ในสถานการณ์ขาดแคลนอย่างหนัก มีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการในการขุดเจาะหาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ เพราะแต่ละภูมิภาคมีการเร่งสำรวจและขุดเจาะผลิตปิโตรเลียมจำนวนมาก ทำให้เรือขุดเจาะเป็นที่ต้องการของตลาด เห็นได้จากการดำเนินงานของบริษัทที่มีเรือขุดเจาะอยู่ 2 ลำ โดย 1 ลำ ได้มีการลงนามสัญญากับทางบริษัท ซาอุดิ อารามโก้  เป็นระเวลา 5 ปี และอีก 1 ลำมีสัญญาที่ทะเลเหนือ ของนอร์เวย์ เป็นเวลา 3 ปี

 

รวมถึงบริษัท เอโอดีฯ ที่บริษัทได้ร่วมทุนกับทางบริษัท ซีดริลฯ ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการขุดเจาะ ที่มีการนำเรือขุดเจาะ 3 ขา เข้าไปรับงานให้บริการกับทางบริษัทน้ำมันแห่งชาติซาอุดิอาระเบียอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี ทำให้เรือของบริษัทที่มีอยู่ปัจจุบันให้บริการเต็มศักยภาพแล้ว

 

นอกจากนี้ การลงทุนต่อเรือขุดเจาะไม่ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะเป็นการลงทุนค่อนข้างสูงไม่ต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อลำขึ้นไป ประกอบกับการที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจทางด้านนี้ ต้องอาศัยความเชื่อมั่นของลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการด้วย หากไม่ได้รับการยอมรับ แม้จะมีเรือขุดเจาะและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ไม่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าก็ไม่สามารถเข้ามาดำเนินธุรกิจได้

 

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า จากศักยภาพของตลาดที่มีอยู่ บวกกับการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ ทางบริษัทฯ จึงได้ตัดสินใจที่จะลงทุนต่อเรือขุดเจาะขึ้นมาอีก 2 ลำ มูลค่า 298 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเรือสนับสนุนการปฏิบัติการดำน้ำใต้ทะเลอีก 1 ลำ มูลค่า 138 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมมูลค่า 436 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯโดยได้ว่าจ้างบริษัท ไชน่า เมอร์แช็นท์ อินดัสตรีส์ โฮลดิ้ง จำกัด ของจีน เป็นผู้ต่อเรือให้ ซึ่งเรือขุดเจาะทั้ง 2 ลำจะทยอยส่งมอบประมาณไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี 2559 ส่วนเรือปฏิบัติการฯจะส่งมอบในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2559

 

สำหรับการลงทุนเพื่อขยายกองเรือนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการขยายงานของบริษัทได้มากขึ้น จากเดิมที่จะมีลูกค้าหลักอยู่ในต่างประเทศเกือบทั้งหมดในภูมิภาคเอเชีย และตะวันออกกลาง หากมีกองเรือใหม่เข้ามาจะทำให้ขยายตลาดไปสู่แถบแอฟริกาได้ นอกจากนี้ ด้วยการที่เป็นบริษัทของคนไทยจึงอยากที่จะเข้ามารับงานบริการขุดเจาะในประเทศมากขึ้น และมองว่าตลาดในประเทศยังมีการขยายตัวอีกมากจึงถือเป็นโอกาสหนึ่งที่จะแสวงหาลูกค้าใหม่ๆ เข้ามา

 

โดยปัจจุบันได้มีการหารือกับทางบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. บริษัท เอ็กซอน และ บริษัท เชฟรอน ที่ดำเนินการขุดเจาะสำรวจแหล่งปิโตรเลียมในบริเวณอ่าวไทยอยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นโอกาสที่สามารถนำกองเรือใหม่ที่ส่งมอบแล้วเสร็จในปี 2559 มาให้บริการได้ เนื่องจากเรือใหม่ที่สั่งต่อขึ้นนี้ จะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่เป็นเรือขุดเจาะสามขา มีศักยภาพในการให้บริการสูงกว่าเรือที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบัน

 

ส่วนจะมีการขยายกองเรือขุดเจาะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่นั้น คงต้องกลับมาดูก่อนว่าบริษัทมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินมากน้อยแค่ไหน เพราะการลงทุนใช้เงินค่อนข้างมาก หากอนาคตฐานะการเงินเป็นไปด้วยดี บริษัทก็พร้อมที่จะขยายการลงทุนเพิ่ม โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ