MANUFACTURING

SAPPE ลุยขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มเพิ่ม 60% ในปีนี้
POSTED ON 31/03/2558


อุตสาหกรรมการผลิต - น.ส.ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า ในปี 2558 นี้ บริษัทฯตั้งงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 470 ล้านบาท โดยจะใช้ในการขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มที่โรงงานคลอง 13 จังหวัดปทุมธานี ซึ่งคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นประมาณ 60% จากเดิมที่มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 1 แสนตันต่อปี และบรรจุภัณฑ์ขวด PET ที่มีกำลังการผลิต 164 ล้านขวดต่อปี โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและเดินเครื่องผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้ กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว จะเป็นการชดเชยกำลังการผลิตจากการปิดโรงงานที่บางชัน ที่ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมลดลงประมาณ 30%

 

"เราได้วางงบลงทุนไว้ที่ 470 ล้านบาท เพื่อลงทุนในการสร้างโรงงานที่คลอง 13 จะเพิ่มกำลังการผลิตได้ 60% อย่างไรก็ตาม เมื่อหักกับการปิดโรงงานที่บางชันที่ทำให้กำลังผลิตรวมลดลงไป 30% ก็เท่ากับว่ากำลังการผลิตของเราจะเพิ่มขึ้นประมาณ 30% เท่านั้น โดยโรงงานใหม่นี้คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องได้ในช่วงครึ่งปีหลัง 2558 และจะเต็มกำลังการผลิตในไตรมาส 4 ปี 2558 สำหรับในด้านของสินค้านั้น ในปี 2558 นี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มสินค้าใหม่ประมาณ 8 รายการ (เฉพาะกลุ่มสินค้าในประเทศ) โดยคาดว่าจะเริ่มออกสินค้าใหม่ได้ในไตรมาส 2 ปี2558" น.ส.ปิยจิต กล่าว

 

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับกับแผนธุรกิจในการก้าวสู่แบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกหรือ Global Brand กลยุทธ์จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ในช่วงแรกจะมุ่งเน้นการปรับช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นในต่างประเทศ ตลอดจนคู่ค้าจากช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ พร้อมกันนี้จะมีการสร้างแบรนด์ “เซ็ปเป้” (SAPPE) ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทั้งในทวีปเอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก ควบคู่กันไป

 

ส่วนช่วงที่ 2 บริษัทฯจะมุ่งแสวงหาโอกาสในการต่อยอดการผลักดันยอดขายให้อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2563 โดยการศึกษาในการพัฒนาสินค้า และศึกษาโอกาสการเข้าซื้อแบรนด์สินค้าที่มีศักยภาพ เพื่อพัฒนากลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์เซ็ปเป้ให้แข็งแกร่ง และสามารถขายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่กระจายอยู่ทั่วโลกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

"ในการก้าวสู่ Global Brand เราจะใช้รูปแบบหรือโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการทำตลาดที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นจัดตั้ง บริษัท เซ็ปเป้ อินโดนีเซีย จำกัด โดยจะเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าและมีการทำตลาดร่วมกัน และสามารถผลักดันแบรนด์เซ็ปเป้ให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคอินโดนีเซียได้ ซึ่งสามารถผลักดันยอดขายได้ถึง 500 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 2 ปี" น.ส.ปิยจิต กล่าว