อุตสาหกรรมการผลิต - นายสมประสงค์ พยัคฆพันธ์ ประธานกลุ่มคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง 20 บริษัท ได้รวมกลุ่มเป็นคลัสเตอร์เครื่องสำอาง เพื่อประสานความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยผลที่ได้ทันที คือ การลดต้นทุนวัตถุดิบ ที่เกิดจากการรวมกลุ่มกันซื้อเป็นจำนวนมาก และมีการแบ่งปันแลกเปลี่ยนวัตถุดิบระหว่างกัน

ส่วนในอนาคตจะมีการร่วมมือในเรื่องการผลิตบรรจุภัณฑ์ และวิจัยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องสำอางไทย โดยการนำประสบการณ์การผลิตของแต่ละบริษัทที่มีมานานกว่า 20 ปี มาต่อยอดให้เกิดผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น รวมทั้งการรวมกลุ่มออกไปสร้างแบรนด์ในตลาดต่างประเทศ

นายสมประสงค์ กล่าวว่า “ขณะนี้มีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่มีผลวิจัยในการนำผลผลิตการเกษตรและสมุนไพรไทยมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ๆ เช่น การผลิตวัตถุดิบแป้งที่ทำมาจากข้าวและมันสำปะหลัง การสกัดยางให้เป็นวัตถุดิบในการทำเครื่องสำอางมาร์คหน้า เป็นต้น แต่ผลงานวิจัยเหล่านี้มีจำนวนมากที่ขาดการต่อยอดนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ ดังนั้น กลุ่มคลัสเตอร์เครื่องสำอางจะเข้ามาช่วยประสานงานระหว่างนักวิจัยและโรงงาน เพื่อต่อยอดให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้คนไทยยอมรับว่าเครื่องสำอางไทยมีคุณภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ชั้นนำของโลก”

“นอกจากนี้ จะเร่งจัดทำฐานข้อมูลของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทั้งหมด และเร่งยกระดับมาตรฐานของผู้ผลิต ซึ่งปัจจุบันมีผู้ผลิตเครื่องสำอางนับพันราย แต่มีเพียง 40-50 บริษัทที่ได้มาตรฐาน GMP ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เร่งเข้ามาช่วยให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ได้มาตรฐาน” นายสมประสงค์ กล่าว

ที่มา : แนวหน้า