LOGISTICS

"ทริพเพิล ไอ" ประกาศแผนลงทุนต่างประเทศ รองรับโลจิสติกส์โตต่อเนื่อง
POSTED ON 03/03/2557


 

ข่าวโลจิสติกส์ (Logistics News) - นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและบริการโลจิสติกส์ครบวงจร ประกาศแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูง พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ พันธมิตรใหม่ บริการใหม่ พร้อมเตรียมเปิดสาขาใหม่อีกหลายเมืองในภูมิภาค

 

“คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลก ในปี 2557 จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคู่ค้าที่สำคัญของไทย ได้แก่ จีนและอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจดีขึ้น บรรยากาศการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนยังคึกคักต่อเนื่องจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ขณะที่สหรัฐอเมริกาและยุโรปมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้ภาพรวมด้านการส่งออกของไทยในปีนี้น่าจะมีอัตราการขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5” นายทิพย์ กล่าว

 

เป้าหมายการดำเนินธุรกิจปี 2557 กลุ่มบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ ได้วางเป้ารายได้ 2,230 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 15% ประกอบด้วย

 

1.กลุ่มธุรกิจขนส่งทางทะเล ตั้งเป้าขยายตัว 13% มุ่งเน้นตลาดเอเชียเป็นตลาดหลัก โดยเตรียมเพิ่มพื้นที่ระวางและจำนวนตู้คอนเทนเนอร์รองรับการให้บริการทั้งส่งออกและนำเข้าสินค้า จาก 44,000 ตู้ เป็น 53,000 ตู้ต่อปี

 

2.กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ ตั้งเป้าการเติบโต 15% โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดและบริการภายในประเทศเป็นหลัก เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าทางอากาศภายในประเทศในสนามบินต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังเตรียมเพิ่มการลงทุนการพัฒนาระบบ การขยายธุรกิจในรูปแบบร่วมลงทุนกับพันธมิตร โดยตั้งเป้าเป็นตัวแทนสายการบินใหม่อีก 3 สายการบินในปีนี้

 

3.กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง ตั้งเป้าเติบโต 24% ชูจุดแข็งการให้บริการ ในรูปแบบการนำเสนอโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน (Logistics & Supply Chain Solution) เพื่อให้ลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการบริหารโลจิสติกส์ โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ ทางกลุ่มบริษัทฯ ยังเตรียมเปิดคลังสินค้าแห่งใหม่รองรับการขยายตัวของธุรกิจโลจิสติกส์ โดยจะเพิ่มพื้นที่คลังสินค้ากว่า 10,000 ตร.ม. สำหรับสินค้าทั่วไป ที่ถนนบางนา-ตราด กม.19 และถนนพระราม 3 ส่วนคลังสินค้าสำหรับสินค้าเคมีและอันตราย จะมีแผนเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการลงทุนพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับระบบบริหารคลังสินค้าและวิธีการจัดเก็บสินค้า

 

สำหรับแผนการขยายการลงทุนในต่างประเทศ ประกอบด้วย การลงทุนขยายเครือข่ายเพื่อรองรับการขยายบริการของสายการบินไทยแอร์เอเชีย โดยจะมีการปรับรูปแบบและโครงสร้างการบริหารบริษัทตัวแทนในต่างประเทศให้เป็นรูปแบบบริษัทร่วมทุน ซึ่งทำให้สามารถเข้าไปบริหารงานได้เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงการขยายการลงทุนด้านคลังสินค้าสำหรับสินค้าเคมีและสินค้าอันตรายในประเทศสิงคโปร์

 

โดยกลุ่มสินค้าส่งออกที่คาดว่าจะมาแรงในปีนี้ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งคาดว่าจะมีการขยายตัว 12% อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์ ซึ่งมีปริมาณการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งมีตลาดเป้าหมายเป็น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อาเซียน และสหรัฐอเมริกา ส่วนกลุ่มสินค้านำเข้าที่น่าสนใจคือกลุ่มอุปกรณ์สื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สำหรับกลุ่มธุรกิจทีวีดิจิตอล

 

นายวิรัช นอบน้อมธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ปิดรายได้รวมที่ 1,940 ล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้และมีการเติบโตสูงสุด คือ กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง กลุ่มที่สร้างรายได้หลักอีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มธุรกิจด้านบริการการขนส่งสินค้าทางทะเล พบว่า มีการเติบโตด้านปริมาณการขนส่งทางทะเลเพิ่มขึ้น 51% จากการขยายธุรกิจของสายเรือ CK Line (ประเทศเกาหลี) ที่ทางกลุ่มบริษัทฯ เป็นตัวแทน โดยปีที่ผ่านมามีการขยายเส้นทางเดินเรือ และเพิ่มจำนวนระวางสินค้าและตู้สินค้าให้บริการขนส่งสินค้าในเอเชีย ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม

 

ส่วนการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจขนส่งทางอากาศมีปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศติดลบ 11% เท่ากับภาพรวมของประเทศที่มีตัวเลขติดลบ 11% เช่นเดียวกัน เนื่องจากสายการบินไทย แอร์เอเชีย ซึ่งทางกลุ่มบริษัทฯ เป็นตัวแทนขนส่งสินค้า ได้ย้ายฐานให้บริการที่สนามบินดอนเมือง ทำให้ลูกค้าบางส่วนหายไป ทางกลุ่มบริษัทฯ จึงได้ปรับแผนขยายให้บริการขนส่งทางอากาศภายในประเทศเพิ่มขึ้นมาทดแทน ทำให้มีปริมาณขนส่งในประเทศเติบโตขึ้นหลายเท่าตัวในปีที่ผ่านมา

 

ที่มา : นสพ.บ้านเมือง