Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคของบริษัท คราวน์ อิควิปเมนท์ (Crown Equipment Corporation) หนึ่งในบริษัทขนถ่ายวัสดุรายใหญ่ที่สุดของโลก จนกลายเป็นฐานการผลิตและโลจิสติกส์ที่สำคัญ คราวน์กำลังช่วยให้ลูกค้ารับมือกับความต้องการของตลาด และตอบสนองความท้าทายในอุตสาหกรรม ผ่านทางผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและโซลูชั่นนวัตกรรมที่ปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่น

การจัดการพาเลทเป็นหนึ่งในปัญหาหลักสำหรับบรรดาบริษัทกระจายสินค้าเกิดใหม่ และบริษัทขนาดกลางถึงขนาดเล็กที่ขาดความรู้ในการจัดการกับความท้าทายนี้ สำหรับในเอเชีย ขนาดพาเลทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ พาเลทขนาด 1,100 x 1,100 มม. และ พาเลทขนาด 1,200 x 1,000 มม. อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยุโรป และออสเตรเลียใช้พาเลทขนาดต่าง ๆ ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลของ International Standardization for Organization (ISO) และชนิดของพาเลทที่แตกต่างกันเหล่านี้สามารถสร้างปัญหาที่ท้าทายได้ ถ้าไม่ได้รับการจัดการที่ถูกต้อง

คราวน์ดำเนินการวิจัย ออกแบบ วิศวกรรม และการผลิตทั่วโลก ซึ่งหมายความว่า รถยกที่คราวน์ผลิตนั้นมีความหลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับพาเลทแต่ละขนาดที่มีการใช้งานตามคลังสินค้าในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก โดยนอกจากจะสร้างรถยกที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของการขนถ่ายวัสดุ ตั้งแต่ท่าเรือไปจนถึงชั้นวางสูงแล้ว คราวน์ยังออกแบบโซลูชันตามความต้องการของลูกค้า ขณะที่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐาน เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เฉพาะเจาะจง เช่น การเปลี่ยนแปลงความกว้างและตำแหน่งของขาต่อเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามขนาดพาเลทที่กำหนด

นอกจากนี้ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้บริการโซลูชั่นขนถ่ายวัสดุอย่างครบวงจร คราวน์จึงมีบริการเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอื่น ๆ ให้กับคลังสินค้าด้วยการใช้ขนาดพาเลทที่เหมาะสม โดยคราวน์ได้ให้บริการให้คำปรึกษา ซึ่งรวมถึงการทบทวนรายละเอียดการดำเนินงานของลูกค้าเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้อุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุให้มีความเหมาะสมมากที่สุด ตลอดจนช่วยยกระดับผลิตภาพ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงการออกแบบคลังสินค้าและวัฒนธรรมความปลอดภัย

นายสตีเวน ฮิลล์ กรรมการผู้จัดการบริษัท คราวน์ อิควิปเมนท์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "เมื่อคุณทำงานร่วมกับคราวน์ เท่ากับว่าคุณกำลังทำงานกับผู้ที่มีความรู้ด้านผลิตภัณฑ์อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งเข้าใจข้อกำหนดของซัพพลายเชนและคลังสินค้าอย่างถ่องแท้ ความรู้ความเข้าใจเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คราวน์โดดเด่นและแตกต่างออกไปจากบรรดาคู่แข่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอโซลูชั่นขนถ่ายวัสดุแบบครบวงจรให้กับลูกค้า"

คราวน์ดำเนินกิจการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาตั้งแต่ปี 2521 และปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคตั้งอยู่ในสิงคโปร์ บริษัทให้บริการลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านทางเครือข่ายร้านค้าปลีกที่มีอยู่อย่างครอบคลุมทั้งในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ไทย เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ไต้หวัน และจีน

ล่าสุด ทางบริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการประกาศเปิดสาขาใหม่ระดับโลกในประเทศเวียดนาม โดยสาขาใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วของเวียดนาม โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเวียดนามมีแนวโน้มที่จะขยายตัวราว 5.1% ต่อปี ซึ่งจะทำให้เวียดนามกลายเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 20 ของโลกภายในปี 2593

การตั้งสาขาในเวียดนามทำให้คราวน์มั่นใจได้ว่า บริษัทจะสามารถนำเสนอโอกาสให้กับธุรกิจท้องถิ่นในการปรับปรุงประสิทธิภาพของซัพพลายเชน ผ่านทางรถโฟล์คลิฟท์คุณภาพสูงและโปรแกรมบริการลูกค้าที่อยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม คราวน์มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับจากการช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงผลการดำเนินงานทางธุรกิจ ลดต้นทุนการดำเนินงาน ตลอดจนบริหารซัพพลายเชนได้เหนือความคาดหมายอย่างสม่ำเสมอ

โรงงานแห่งใหม่ในเวียดนาม ซึ่งตั้งอยู่ที่นครโฮจิมินห์ นับเป็นการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ของคราวน์ในเอเชียเป็นครั้งที่ห้าในรอบ 18 เดือน หลังจากที่ดำเนินการเปิดสาขาในเกาหลีใต้ มาเลเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ เสร็จสมบูรณ์ไปเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้ โฮจิมินห์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม และปัจจุบันหลายบริษัทกำลังลงทุนสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ โดยเฉพาะบริษัทที่ย้ายฐานการผลิตมาจากจีน ด้วยเหตุผลเรื่องต้นทุนแรงงานที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นสามเท่าของค่าแรงเฉลี่ยในเวียดนาม

ก่อนหน้านี้ คราวน์ดำเนินการจัดจำหน่ายโซลูชั่นขนถ่ายวัสดุในเวียดนามผ่านทางเครือข่ายลูกค้าทั่วโลก อย่างไรก็ดี เนื่องด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยี ส่งผลให้คราวน์เร่งเดินหน้าขยายโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวของอุตสาหกรรม

คราวน์ นำเสนอโอกาสพิเศษให้ธุรกิจท้องถิ่นได้ร่วมงานโดยตรงกับผู้ผลิตโฟล์คลิฟท์ ผ่านทางสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของและดำเนินงานเอง ด้วยทรัพยากรความรู้เฉพาะทางของคราวน์ ตลอดจนโซลูชั่นทันสมัยที่ช่วยรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ในยุคนี้ รวมทั้งเครือข่ายระดับโลกที่สนับสนุนการดำเนินงานในระดับท้องถิ่น ลูกค้าจึงสามารถคาดหวังได้ถึงโซลูชั่นการบริการที่ครบวงจรจากคราวน์ เพื่อช่วยพัฒนาและขยายธุรกิจของลูกค้าให้เจริญเติบโตในเวียดนาม