LOGISTICS

สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือฯ ชี้ ส่งออกปี 2557 หดตัว 0.2%
POSTED ON 06/01/2558


โลจิสติกส์อุตสาหกรรม - นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกปี 2557 และคาดการณ์ปี 2558 ว่า ภาพรวมการส่งออก 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.2557) หดตัว 0.42% ขณะที่ทั้งปี 2557 ตัวเลขการส่งออกจะยังคงหดตัว 0.2%

 

สำหรับการส่งออกในเดือน พ.ย.2557 มีมูลค่า 18,568 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้ 11 เดือนการส่งออกมีมูลค่า 209,188 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 0.42% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ 11 เดือน มีมูลค่า 136,513 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 65.3% ของการส่งออก ขยายตัว 1% โดยสินค้าที่มีการขยายตัว เช่น เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก ส่วนสินค้าที่ที่มีการปรับตัวลดลง เช่น ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ วัสดุก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 คาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกจะขยายตัวได้ที่ 2.5% แต่ทั้งนี้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี ก็ยังน่าเป็นห่วง และคงต้องติดตามว่าจะมีทิศทางอย่างไร จะดีขึ้นจริงเหมือนที่คาดการณ์กันไว้หรือไม่ หรือจะมีอุปสรรคที่ต่อเนื่องมาจากปีก่อน ทั้ง เรื่องภาษี ซึ่งสหภาพุโรปได้ตัดสิทธิ์ GSP ของไทยเมื่อสิ้นปี 2557 ที่ผ่านมา ทำให้คู่ค้ามีการสั่งซื้อสินค้าไปกักตุนก่อนที่ภาษีจะขึ้น ประกอบกับภาษีที่ปรับขึ้นมา อาจทำให้คำสั่งซื้อสินค้าต่างๆ ลดลง

 

ประเด็นถัดไปคือราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวน และลดลงต่อเนื่อง และยังไม่ชัดเจนว่าราคาน้ำมันจะดีดกลับเมื่อไหร่ ทำให้ผู้ผลิตวางแผนด้านตนทุนการผลิตยาก ขณะที่เรื่องการเมืองระหว่างประเทศก็เป็นปัจจัยที่น่ากังวล และสภาพภาพอากาศโดยรวมที่แปรปรวนซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสินค้าการเกษตร

 

ส่วนเรื่องที่จะเป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกในปี 2558 ยังมีเรื่องของค่าเงินบาทที่อาจช่วยพยุงการส่งออกไทยได้บ้าง โดยอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมที่ 33-34 บาทต่อเหรียญฯ ถือเป็นเหมาะสมต่อการส่งออกได้

 

นอกจากนี้ การปรับขึ้นค่า Terminal Handling Charge (THC) ที่สายเดินเรือประกาศปรับขึ้นในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2558 ในอัตราที่สูงกว่าเดิม 75% ซึ่งขณะนี้ได้ขอความร่วมมือกับสายเดินเรือชะลอการปรับขึ้น THC ออกไปเป็นระเวลา 60 วันนั้น ทางสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือฯ คาดหวังว่าทางภาครัฐจะสามารถควบคุมการปรับขึ้นค่า THC ให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสมได้ เพื่อดูแลผู้ประกอบการไทย ไม่ให้สายเดินเรือต่างชาติมีอำนาจเหนือตลาดมากจนเกินไป เพราะหากปล่อยให้เป็นเช่นนั้น ในการเปิดเออีซี ไทยและประเทศสมาชิก อาจต้องโดนกดดันต่อไปเรื่อยๆ และประเทศในอาเซียนจะไม่ได้ประโยชน์ในการเปิดเออีซีอย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงต้องการให้ภาครัฐมีการทบทวนดูแลเรื่องการปรับขึ้นค่าขนส่งให้เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการไทยด้วย