โลจิสติกส์อุตสาหกรรม - ยูพีเอส เผยผลสำรวจ “แนวโน้มการผลิตและการค้าของญี่ปุ่น” ของยูพีเอส ซึ่งจัดทำเป็นครั้งแรก เจาะลึกถึงแนวโน้มปัจจุบันและอนาคตของอุตสาหกรรมการผลิตญี่ปุ่นในบริบทของการค้าและโลจิสติกส์ระดับโลก ย้ำภาคการผลิตญี่ปุ่นยังคงย้ายฐานการผลิตสู่นอกประเทศต่อเนื่อง ความสำคัญของโลจิสติกส์และโอกาสในการปรับปรุงและลดขั้นตอนซับซ้อนในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้แข่งขันได้ และตลาดการค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายเค เค เหลียง ประธาน นอร์ธดิสทริค ยูพีเอส เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ภาคการผลิตในเอเชียกำลังปรับตัวต่อเนื่องในขณะที่ความต้องการของตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มที่ดี ธุรกิจด้านการผลิตจำเป็นต้องหาวิธีที่จะแข่งขันในภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปอย่างมีประสิทธิภาพ”

จากผลสำรวจของยูพีเอส จีนคือคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยสัดส่วนการส่งออก 81.3% และนำเข้า 76% ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 40% เห็นว่าจีนคือตลาดที่สำคัญที่สุดของตน อันดับ 2 คือสหรัฐอเมริกา (20.4%) และอันดับ 3 คือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (16.8%) และเมื่อมองอนาคต 1 ใน 4 ของบริษัทด้านการผลิตของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า อาเซียนจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในแวดวงการค้าภายในภูมิภาคในอนาคต โดยเติบโตขึ้นเกือบเท่าตัวจากระดับในปัจจุบัน

นายเอ็ดมันด์ โล กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย กล่าวว่า “ผลการสำรวจของเราย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่งระหว่างไทยและญี่ปุ่น จากข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่นคือคู่ค้าอันดับสอง และผู้ลงทุนจากต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของไทย แนวนโยบายการค้าของญี่ปุ่นจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ตลอดจนภาคการผลิตของไทยในระยะยาว”

ผู้ตอบแบบสอบถาม 88.6% เห็นว่า โลจิสติกส์ซึ่งส่งเสริมการดำเนินธุรกิจและการค้าในระดับนานาชาติมีความสำคัญ อย่างไรก็ตาม 53.7% บอกว่าตนยังปรับปรุงและลดขั้นตอนซับซ้อนในระบบโลจิสติกส์ของตนไม่สำเร็จ และจากผลสำรวจยูพีเอส ผู้ตอบแบบสอบถาม 74% ตอบว่า ธุรกิจของตนใช้โหมดการขนส่งสองโหมดหรือมากกว่านั้นในการส่งออกสินค้า ในขณะที่ 71% ใช้โหมดการขนส่งสองโหมดหรือมากกว่านั้นในการนำเข้าสินค้า