ข่าวโลจิสติกส์ - นางจินตนา ชัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่า รถบรรทุกเตรียมขึ้นค่าขนส่งร้อยละ 5 เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้บังคับใช้ประกาศกำหนดพิกัดรถบรรทุกให้ยานพาหนะชนิดรถลากจูงและรถพ่วงต้องมีน้ำหนักยานพาหนะรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 50.5 ตัน โดยไม่มีการผ่อนผัน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งต่อหน่วยเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าในช่วงพฤศจิกายนนี้ หากมีผลผลิตหรือสินค้าทางการเกษตรออกสู่ตลาดจำนวนมาก และมีความต้องการใช้บริการขนส่งมากขึ้น ผู้ประกอบการขนส่งอาจมีการปรับค่าบริการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 นั้น

กรมการค้าภายในได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและประสานกับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พบว่า กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้ออกประกาศกำหนดพิกัดน้ำหนักบรรทุกให้ยานพาหนะชนิดรถลากจูงและรถพ่วงต้องมีน้ำหนักยานพาหนะรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 50.5 ตัน กำหนดบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 และได้ผ่อนผันให้รถบรรทุกได้ถึง 58.0 ตัน

แต่ปัจจุบันได้บังคับใช้ประกาศดังกล่าว โดยไม่มีการผ่อนผัน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการรถบรรทุกกำหนดอัตราค่าบริการขนส่ง 2 อัตรา คือ ค่าขนส่งสินค้าเกษตร ประมาณ 1.10 บาท/ตัน/กิโลเมตร และค่าขนส่งสินค้าอุตสาหกรรม ประมาณ 1.00 บาท/ตัน/กิโลเมตร

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราค่าบริการขนส่งคงเดิม เนื่องจากปัจจุบันราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30.00 บาท (เป็นอัตราที่ใช้คำนวณต้นทุนค่าขนส่งปัจจุบัน) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จึงไม่มีผลกระทบทำให้ต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้น ซึ่งทางสหพันธ์ฯ ยินดีให้ความร่วมมือคงอัตราค่าบริการขนส่งดังกล่าว

กรมการค้าภายในจะติดตามและตรวจสอบอัตราค่าขนส่งสินค้าอย่างใกล้ชิด หากต้นทุนการขนส่งเพิ่มสูงขึ้น จะเชิญผู้ประกอบการมาหารือเพื่อพิจาณาแนวทางการช่วยลดต้นทุนต่อไป เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อค่าขนส่งและราคาสินค้า

ที่มา : มติชนออนไลน์