ข่าวโลจิสติกส์ - นายศรชัย สร้อยหงษ์พราย นายด่านศุลกากรเชียงของ จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า หลังมีการเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 เชื่อมอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2556 ถึง ไตรมาสที่ 3/2557 ส่งผลให้ตัวเลขการค้าชายแดนยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยมีการนำเข้าและส่งออกรวมกันประมาณ 9,800 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออกประมาณ 8,000 ล้านบาท นำเข้ามูลค่าประมาณ 1,800 ล้านบาท มีอัตราเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 10.6% ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า การค้าชายแดนด้านอำเภอเชียงของหลังการเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 10%

ทั้งนี้ คาดว่าปีนี้จะทำให้มีมูลค่าการค้าไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท ขณะที่ตัวเลขในปี 2556 ก่อนมีการเปิดใช้สะพานมีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 13,600 ล้านบาท และผลวิจัยพบว่ามูลค่าการค้ารวมในปี 2560 จะสูงกว่า 17,000 ล้านบาท

นายศรชัยกล่าวถึงความพร้อมของด่านเชียงของว่า ปัจจุบันกรมศุลกากรได้ทำการก่อสร้างด่านศุลกากรเชียงของแห่งใหม่แล้วบริเวณด่านพรมแดนก่อนถึงสะพานข้ามโขง และมีการนำเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ไปทำการติดตั้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ รวมทั้งมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้เกิดการให้บริการที่จุดเดียว หรือ One Stop Service ร่วมกันตามความร่วมมือระหว่างประเทศ

สำหรับเจ้าหน้าที่ก็มีความพร้อม มีการอบรมด้านภาษา กฎระเบียบใหม่ๆ ที่มีการตกลงระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558

ด้าน นายสงวน ซ้อนกลิ่นสกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ปัจจุบันการค้าชายแดนด้านอำเภอเชียงของแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การค้าชายแดน และการค้ากับจีนตอนใต้โดยตรงผ่านทางถนนอาร์สามเอใน สปป.ลาว ส่วนท่าเรือเชียงของแห่งเดิมได้เปลี่ยนไปเป็นการค้าชายแดนที่มีปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้กิจการแพขนานยนต์และเรือขนส่งสินค้าแทบไม่มีการใช้บริการ

ในส่วนของการลงทุนใหม่ ขณะนี้กลุ่มทุนต่างๆ ได้เปิดตัวชัดเจนและมีการลงทุนเกิดขึ้นแล้ว เช่น กลุ่มทุนจีน บริษัท เจ๋ฟง โลจิสติกส์ จำกัด ทุ่มทุนกว่า 1,000 ล้านบาทร่วมกับเจ้าของที่ดินที่อำเภอเชียงของ ก่อสร้างโครงการเจ๋ฟงโลจิสติกส์บนเนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ใกล้ด่านพรมแดนติดกับสะพานข้ามแม่น้ำโขง มีทั้งคลังสินค้า ห้องเย็น ใช้เวลาก่อสร้างราว 3 ปี คาดว่ากลางปี 2558 จะเริ่มเปิดให้บริการได้

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ ได้เข้าไปก่อสร้างโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้สำนักงานเทศบาลตำบลเวียงเชียงของ ส่วนบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ กำลังก่อสร้างโรงแรมฟอร์จูนแกรนด์เชียงของกว่า 100 ห้อง ทำให้ภาคเอกชนทั้งทุนใหญ่และทุนท้องถิ่นต้องมีการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ