ข่าวโลจิสติกส์ - นายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ เรื่องการกำหนดมาตรฐานคลังสินค้า มาตรฐานไซโล และมาตรฐานห้องเย็น ธุรกิจรับฝากและจัดเก็บสินค้า ซึ่งมีมูลค่าการประกอบธุรกิจปีละกว่า 70,000 ล้านบาท การลงนามบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยยกระดับการพัฒนาธุรกิจรับฝากและจัดเก็บสินค้า ได้แก่ ธุรกิจคลังสินค้า ธุรกิจไซโล และธุรกิจห้องเย็นของประเทศ ให้มีศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน เพื่อพร้อมรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558

นอกจากนี้ ยังเป็นการการยกระดับมาตรฐานการให้บริการดังกล่าว จากระดับกรมให้เป็นมาตรฐานระดับประเทศและเป็นสากล ก็จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบกิจการและระบบโลจิสติกส์โดยรวม โดยจะทำให้ผู้ประกอบกิจการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มีการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีบริหารสินค้าคงคลังอย่างเหมาะสม ลดความซ้ำซ้อนของกระบวนงาน ตลอดจนพัฒนาศักยภาพบุคลากร มีการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีบริหารสินค้าคงคลังอย่างเหมาะสม ลดความซ้ำซ้อนของกระบวนงาน ตลอดจนพัฒนาศักยภาพบุคลากร ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนลดลง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก

“ธุรกิจรับฝากและจัดเก็บสินค้ามีมูลค่าการประกอบธุรกิจปีละกว่า 70,000 ล้านบาท นับเป็นธุรกิจสำคัญต่อเศรษฐกิจสาขาหนึ่ง ขณะนี้ภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจดังกล่าว จึงถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบธุรกิจจะได้พัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการให้เห็นผลอย่างจริงจัง ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องตระหนักรู้ถึงอุปสรรค โอกาส และความท้าทายในระดับเวทีอาเซียน และนับว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีของการพัฒนา และยกระดับมาตรฐานคลังสินค้า มาตรฐานไซโล และมาตรฐานห้องเย็น ให้เป็นมาตรฐานระดับประเทศและสากลต่อไป” นายสุชาติ กล่าว

โดยในวัน 7-8 สิงหาคม 2557 กรมการค้าภายใน จะจัดสัมมนา “โอกาสของธุรกิจรับฝากเก็บสินค้า ภายหลังการเปิดเสรี AEC” ที่จังหวัดชลบุรี โดยจะเป็นการนำเสนอผลการศึกษาในเชิงลึก ถึงผลกระทบที่ธุรกิจรับฝาก และจัดเก็บสินค้าของไทยจะต้องเผชิญในปัจจุบันและในอนาคต รวมทั้งกลยุทธ์ในเชิงรุกและเชิงรับกับประเทศในเออีซี ซึ่งจะเป็นการสร้างความตระหนักในการเตรียมความพร้อมในการแข่งขันให้ธุรกิจไทย

ด้าน นายอุกฤทธิ์ ศรีหนองโคตร เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า การสร้างความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการพัฒนาและกำหนดมาตรฐานคลังสินค้า มาตรฐานไซโล และมาตรฐานห้องเย็น ให้เป็นสากลมากยิ่งขึ้น และเพื่อรองรับเออีซี โดยการพัฒนามาตรฐานผู้ประกอบการสู่ระดับสากลจะนำร่อง 30 ราย ภายในปี 2558 จากผู้ประกอบการ 81 ราย ที่ได้รับมาตรฐานระดับกรม ของผู้ประกอบการทั้งหมด 234 รายทั่วประเทศ และหากสามารถพัฒนาการทำงานให้มีระบบที่ดี เชื่อว่าจะช่วยลดต้นทุนได้ 10-20%

ที่มา : แนวหน้า