ข่าวโลจิสติกส์ - นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน กล่าวว่า วิตกว่าการมีรัฐบาลล่าช้าจะเป็นอุปสรรคต่อการลงนามและเดินหน้าตามข้อตกลง เพื่อเพิ่มการค้าการลงทุน เพิ่มการอำนวยความสะดวก และเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ไทยกับประเทศชายแดนต้องถูกเลื่อนออกไปหรือชะงัก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อไทยในการเปิดตลาดเออีซี

หากมีรัฐบาลใหม่เข้ามา สิ่งแรกที่ควรเร่งดำเนินการ คือ ขอให้รัฐบาลเจรจาเร่งออก พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด เพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่งสามารถปฏิบัติตามความตกลงได้ และขอให้รัฐบาลเร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อร่วมกันยกฐานะจุดผ่อนปรนทางการค้าที่มีศักยภาพให้เป็นด่านถาวรให้มากที่สุด

ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการเปิดทางอนุมัติเฉพาะคราว เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ในด่านพรมแดนอื่นๆ ที่มีการขนส่งที่หนาแน่น รวมถึงควรขยายเวลาในการเปิด-ปิดด่านให้มีเวลาทำการค้าแต่ละวันเพิ่มมากขึ้น และปรับปรุงด่านที่แออัดเพื่อให้มีความคล่องตัวเพื่อเพิ่มปริมาณการค้า

"ในแผนที่ได้เสนอรัฐบาลใหม่จะทำให้การค้าชายแดนขยายตัวปีละ 20% และเพิ่มมูลค่าการค้าถึง 2 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นับจากปี 2556 ที่มีมูลค่า 9.2 แสนล้านบาท โดยปีนี้ยังเชื่อว่าการค้าชายแดนจะขยายตัวได้ 7-10%" นายนิยม กล่าว

ที่มา : นสพ.มติชน