ข่าวโลจิสติกส์ (Logistics News0 - นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.ได้ศึกษาและออกแบบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้น โดยขณะนี้ได้ออกแบบโครงการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เมื่อผ่านการพิจารณาจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่อนุมัติเพื่อดำเนินการก่อสร้างทันที

โดยเส้นทางดังกล่าวประกอบด้วย สายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ, สายนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน, สายลพบุรี-ปากน้ำโพ, สายนครราชสีมา-ขอนแก่น และสายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ส่วนการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ 57 คันนั้น คาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ภายในไตรมาส 3 ปี 2557 นี้

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนที่ต้องปรับแบบเพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เช่น สถานีกลางบางซื่อ ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะต้องรอเสนอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาวงเงินงบประมาณที่เพิ่มขึ้น หลังจากมีการปรับแบบการก่อสร้างใหม่ให้รองรับไฮสปีดเทรนก่อน หากก่อสร้างตามแบบเดิมซึ่งไม่รองรับไฮสปีดเทรนแล้วต้องรื้อใหม่เมื่อมีการก่อสร้างในอนาคตจะต้องใช้งบลงทุนเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ รมว.คมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้นัดหารือกับสำนักงบประมาณ และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เพื่อประเมินโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หลังจากไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทขัดต่อรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้เพื่อเตรียมความพร้อมให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาผลักดันโครงการลงทุนต่างๆ ต่อ ซึ่งมีทางเลือกหลายแนวทาง เช่น การกู้เงินก้อนเดียว หรือกู้เป็นรายโครงการ เพราะขณะนี้โครงการต่างๆ มีความพร้อมที่จะดำเนินการอยู่แล้ว

“แม้ว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทจะตกไป แต่โครงการต่างๆ ยังอยู่ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท, สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี มูลค่า 1 แสนล้านบาท ถนนมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช มูลค่า 1.8 แสนล้านบาท ตลอดจนโครงการรถไฟรางคู่ แต่ต้องดูว่าจะเอาเงินลงทุนมาจากไหน” นายชัชชาติ กล่าว

ที่มา : ไทยโพสต์