IT & SOFTWARE

RISE เปิดตัวโปรแกรม AI Accelerator เป็นครั้งแรก เผยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อพัฒนานวัตกรรมองค์กร
POSTED ON 23/04/2562


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผลักดันนวัตกรรมองค์กร เปิดตัวโปรแกรม AI Accelerator เป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นโปรแกรมเร่งสปีดการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) มาใช้ในองค์กร มุ่งเน้นให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้ และสามารถตอบโจทย์ขององค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายณัฐภัทร ธเนศวรกุล Head of Ventures ของ RISE กล่าวว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของจีดีพีโดยรวมของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการจัดตั้งวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในองค์กรธุรกิจ จะช่วยให้องค์กรระดับภูมิภาคต่าง ๆ สามารถปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เหมาะสมและยกระดับผลิตภัณฑ์ และบริการต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

 

ขณะนี้ อุตสาหกรรมของ AI กำลังเติบโตและมีผลกระทบอย่างมากต่อทั้งธุรกิจและสังคม ซึ่งการเพิ่มขึ้นของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนและพัฒนามากมายในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำให้องค์กรเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจ ปฏิรูปวิธีการ เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เพื่อให้องค์กรสามารถทำธุรกิจของตนเอง และแข่งขันในเศรษฐกิจโลกได้ ดังนั้น ธุรกิจต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มรายได้ให้สูงขึ้น

 

อีกทั้ง จากข้อมูลวิจัยของ McKinsey ได้ระบุว่า การปรับใช้ AI จะส่งผลทำให้กำไรของธุรกิจต่าง ๆ ในทุกภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี พ.ศ. 2578 โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษา การให้บริการที่พัก & อาหาร และการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 70% นอกจากนี้ มีการคาดว่าการใช้ AI ในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก การเกษตร ป่าไม้ การประมงและการดูแลสุขภาพจะทำให้ผลกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 50%

 

รวมทั้งเมื่อพิจารณาถึงความได้เปรียบจากการนำ AI มาใช้ในตลาดก่อนคู่แข่งขัน ในขณะนี้ ธุรกิจต่าง ๆ มีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาขีดความสามารถด้าน AI ของตนเองเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันดังกล่าว

 

"อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาใช้นั้นจะต้องใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง บริษัทส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาทรัพยากรไม่เพียงพอในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ภายในองค์กร และยังไม่สามารถเข้าถึงนักพัฒนา AI ทั่วโลกได้อีกด้วย สภาพแวดล้อมเหล่านี้ คือเหตุผลว่าทำไมโปรแกรม RISE.AI จึงถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับองค์กรต่าง ๆ และนักพัฒนา AI ทั่วโลกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อร่วมกันทำงานที่มีศักยภาพและรักษาความสามารถในการแข่งขันในเศรษฐกิจโลกที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง" นายณัฐภัทร กล่าว

 

ด้านนายธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการอาวุโสสายงานบริหารเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ปตท.สผ กล่าวว่า " ปตท.สผ ได้วางแผนในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในหลายส่วนที่สำคัญขององค์กร เพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจขององค์กร ทางเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเข้ามาเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่มีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการของโปรแกรม RISE.AI ที่จะช่วยให้ ปตท.สผ ค้นหาสตาร์ทอัพที่ดีที่สุดจากทั่วโลกมาผลักดันนวัตกรรมองค์กรด้าน AI

 

RISE.AI เป็นโปรแกรมเร่งสปีด AI ที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถเข้าถึงแหล่งคอมมูนิตี้ AI ทั่วโลก โดยโปรแกรมนี้จะคัดเลือกสตาร์ทอัพจากความสามารถในการแก้ไขปัญหาในโจทย์ที่ได้รับจากแต่ละองค์กร ทั้งนี้ สตาร์ทอัพด้าน AI ทั้งหมดที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโปรแกรม จะมีโอกาสเข้าร่วมแคมป์เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการนำร่องต่าง ๆ เป็นเวลา 9 สัปดาห์กับพันธมิตรองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ของ RISE และรับการให้คำปรึกษาส่วนตัวจากผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จาก New York University Tandon Future Labs เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าในโครงการที่สร้างขึ้นภายในกรอบเวลาของโปรแกรมมีศักยภาพระดับสากล