IT & SOFTWARE

INESA กับการก้าวสู่โรงงานอัจฉริยะ
POSTED ON 09/02/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

กลุ่มบริษัท The Instrument and Electronics (Shanghai) Associates Group หรือ INESA ถือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ของจีนที่ให้บริการโซลูชั่น Smart City โดยมีบริษัท INESA Display Materials เป็นบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจผลิตชุดกรองสีสำหรับจอแสดงผล (Color Filter) แห่งเดียวในโลกที่มีศักยภาพในการผลิตมาถึงรุ่นที่ 5 แล้ว และเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในรูปแบบธุรกิจขององค์กรและสภาพแวดล้อมของตลาด รัฐบาลจีนจึงได้ประกาศใช้แผนกลยุทธ์ “ผลิตในประเทศจีน ปี 2025” ขึ้น

 

จุดมุ่งหมายสำคัญก็เพื่อผสานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัยเข้ากับระบบการผลิต ซึ่งจะช่วยให้ประเทศจีนนำหน้าคู่แข่งโดยการเปลี่ยนจากผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ที่ผลิตสินค้าจำนวนมากไปเป็นโรงงานประสิทธิภาพสูงที่มุ่งเน้นผลิตสินค้าคุณภาพ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ INESA จึงริเริ่มใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ล้ำสมัยและระบบการผลิตอัจฉริยะโดยส่งเสริมการพัฒนาและความได้เปรียบทางการแข่งขัน

 

เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการสร้างโรงงานอัจฉริยะดังกล่าว บริษัทฯ ต้องก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ทั้งการผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพ การควบคุมค่าใช้จ่าย และการลดการใช้พลังงาน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยระบบอัจฉริยะในการเก็บรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บ การประมวลผล และการวิเคราะห์ภาพที่ได้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลในการผลิตได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนติดตามการใช้พลังงานควบคู่กันไป

 

ในวิธีปฏิบัติแบบดั้งเดิม ข้อมูลจะถูกเก็บรวบรวมผ่านรายงานทางสถิติต่าง ๆ แต่วิธีนี้ยังเป็นปัญหาเนื่องจากมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ต้องใช้ทั้งเวลาและแรงงาน อีกทั้งยังไม่สามารถแสดงข้อมูลที่หลากหลายได้อย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นเรื่องยากที่จะรับรู้ถึงสถานะโดยรวมของโรงงานผลิต ตลอดจนการใช้งานและการบำรุงรักษาอุปกรณ์อีกด้วย

 

 

นาย Wei Fengrong ผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศของ INESA Display Materials ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ INESA Group กล่าวว่า “ในสภาพแวดล้อมด้านการผลิตของบริษัทฯ เรามีแหล่งข้อมูลจำนวนมากที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน อุปกรณ์ และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของสินค้าที่เราผลิต การเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อการปรับปรุงระบบการจัดการ ดังนั้น การแสดงผลอย่างเป็นเอกภาพในแพลตฟอร์มเดียวกัน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง”

 

ในเดือน ม.ค.2559 ฟูจิตสึ และ INESA ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัท Smart Manufacturing Demonstration Factory ซึ่งเป็นโรงงานผลิตตัวอย่าง ประกอบด้วย 3 เฟส โดยในเฟสแรกของโครงการทั้งฟูจิตสึและ INESA ได้ร่วมมือกันเก็บรวบรวมและเปรียบเทียบข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันก็ได้นำสถาปัตยกรรม Internet of Things (IoT) มาใช้ เพื่อให้สามารถมองเห็นสถานะการผลิตและสถานการณ์การดำเนินงานของโรงงานได้อย่างครอบคลุม

 

โซลูชั่นนี้ประกอบด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตไร้สายร่วมกับกระบวนการติดตามแบบดั้งเดิม การตรวจสอบและใช้อุปกรณ์ตรวจจับเพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าของข้อมูลตามเวลาจริง พยายามจะวิเคราะห์สถานะการผลิตของโรงงาน เพื่อสร้างรายงานสรุปต่าง ๆ ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากร เช่น ไฟฟ้า ก๊าซ และน้ำ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจะถูกเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ

 

นอกจากนี้ ฟูจิตสึยังได้ออกแบบแพลตฟอร์ม Big Data เพื่อจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลการใช้พลังงานและข้อมูลการผลิตทั้งหมดของโรงงานไว้ที่ส่วนกลาง ทำให้สามารถมองภาพและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากในเชิงลึกได้อย่างรวดเร็ว

 

นาย Wei กล่าวว่า “แพลตฟอร์มบิ๊กดาต้าและเทคโนโลยีไร้สายระดับอุตสาหกรรมในแบบ IoT ของฟูจิตสึ ทำให้เราสามารถก้าวไปสู่ระบบการบำรุงรักษาอุปกรณ์แบบอัจฉริยะด้วยเช่นกัน ระบบ Enterprise Application Intelligent Dashboard ของฟูจิตสึช่วยให้สามารถแสดงผลตัวชี้วัดหลัก ๆ ได้อย่างครบถ้วน เช่น ประสิทธิภาพการผลิต คุณภาพผลิตภัณฑ์ สถานะอุปกรณ์ สภาพแวดล้อมโรงงาน และพลังงานที่ใช้ไปในการผลิต ผลที่ได้รับ คือ ภาพจากแดชบอร์ดจะช่วยให้สามารถตรวจจับอุปกรณ์ที่ผิดพลาดได้โดยเร็ว ทำให้ผู้จัดการโรงงานสามารถระบุปัญหาและแก้ไขปรับปรุงได้ทันท่วงที สนับสนุนการดำเนินงานในโรงงานไปพร้อม ๆ กับการดูแล”

 

สิ่งแวดล้อมหลังจากการใช้โซลูชั่นใหม่ของฟูจิตสึ ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการก็ดีขึ้นอย่างมาก การวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงานพบว่าผลผลิตเพิ่มขึ้น 25% และสามารถลดเวลาการผลิตลงถึง 50% นอกจากนี้ โซลูชั่นจะรีเฟรชข้อมูลการจัดการพลังงานทุก 45 วินาที ซึ่งจะกระตุ้นให้พนักงานมีความด้วยประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

 

ทั้งนี้ โครงการโรงงานอัจฉริยะของ INESA ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัล Smart Manufacturing Pilot Demonstration Project ประจำปี 2559 และได้เป็นหนึ่งในโรงงานไม่กี่แห่งที่ได้รับการยกย่องว่ามีแนวคิด ระบบการผลิตอัจฉริยะภาพ

 

หน้าจอแดชบอร์ดแอพพลิเคชั่นอัจฉริยะของฟูจิตสึ (Fujitsu Enterprise Application Intelligent Dashboard) จะแสดงสถานะของสายการผลิตในแบบเรียลไทม์ในทุก 10 นาที นอกจากนี้ ข้อมูลยังมีข้อเสนอแนะสำคัญที่จะช่วยการทำงานของผู้จัดการ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการการผลิต คุณภาพและอัตราปริมาณของเสียระหว่างการผลิต การใช้พลังงานและสถานะอุปกรณ์อีกด้วย

 

ระบบ FUJITSU Enterprise Application Intelligent Dashboard มีความรวดเร็วในการตอบสนองต่อปัญหาด้านอุปกรณ์ กระบวนการนี้จะช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงทีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนี้ ระบบยังมีฟังก์ชั่นย้อนหลัง ซึ่งสามารถย้อนดูเหตุการณ์ที่ผู้จัดการไม่ได้สังเกตก่อนหน้านี้ ซึ่งคุณลักษณะดังกล่าวช่วยให้ผู้ควบคุมงานสามารถตรวจสอบสาเหตุของปัญหาและป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต