HOT

บ้านปู อ่วม หลังศาลตัดสินให้จ่ายค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยต่อ TLL ในคดีโรงไฟฟ้าหงสา
POSTED ON 06/03/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

วันนี้ (6 มี.ค.2561) ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมายห้ามการซื้อขายหุ้น BANPU และ บริษัท บ้านปู พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ชั่วคราว สำหรับการซื้อขายรอบเช้า เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ระหว่างรอผลคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีโรงไฟฟ้าหงสา ระหว่าง บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ฐานะจำเลย กับ บริษัท ไทย-ลาว ลิกไนต์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TLL และกลุ่มงานทวี ในฐานะโจทก์ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์และการตัดสินใจในการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ

 

สำหรับคดีโรงไฟฟ้าหงสาใน สปป.ลาว นั้น ทาง TLL และกลุ่มงานทวี ได้มีการฟ้องร้องบริษัท บ้านปู มาตั้งแต่ปี 2550 โดยเป็นการแบ่งฟ้องทั้งรัฐบาลลาว ในฐานะผู้ยกเลิกสัมปทานกับทาง TLL และ บ้านปู ในฐานะผู้เข้ามารับสัมปทานแทน ซึ่งที่ผ่านมาทางรัฐบาลลาวชนะคดีหลังศาลสูงสุดของมาเลเซียยกฟ้อง ขณะที่ศาลแพ่งตัดสินให้บ้านปูชดใช้ค่าเสียหาย 31,740 ล้านบาท แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้อง ทำให้บ้านปูไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายตามศาลแพ่ง จนมาถึงศาลฎีกา 

 

ซึ่งในวันนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาต่อคดีดังกล่าวว่า ให้บ้านปูต้องจ่ายเงินค่าเสียหายใช้แก่บริษัท ไทย–ลาว ลิกไนต์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นจำนวนเงิน 1,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% นับตั้งแต่วันที่มีการฟ้องร้อง ซึ่งรวมแล้วเป็นระยะเวลาถึง 10 ปี

 

ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ เมืองหงสา แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการขยายสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนของบ้านปู เพื่อหวังลดความเสี่ยงในธุรกิจถ่านหิน ซึ่งบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบ้านปู ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2559 โดยดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน ทั้งพลังงานไฟฟ้า พลังงานไอน้ำ มีกำลังผลิตรวม 2,068 เมกะวัตต์ มีโครงการรอพัฒนา 721 เมกะวัตต์ ตามแผนงานระยะยาวบริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตถึงปี 2564 เป็น 2,800 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมาจากโครงการลงทุนในประเทศญี่ปุ่นและจีน