HOT

พ.ร.บ.ใหม่ ผลิต-นำเข้าสินค้าอุตฯไม่ได้มาตรฐาน โทษปรับหนักถึง 5 ล้านบาท
POSTED ON 25/08/2559


ข่าวอุตสาหกรรม 25 ส.ค.2559 - นายธวัช ผลความดี เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 ซึ่งมาตรฐานที่ปรับปรุง เช่น การเพิ่มบทลงโทษกรณีทำหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จากเดิมมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพิ่มเป็นโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 ถึง 5,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ส่วนร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน จากเดิมมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก็จะเพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 5,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ เชื่อว่าบทลงโทษใหม่จะส่งผลให้ร้านค้ารวมถึงผู้ผลิตและนำเข้าสินค้าใส่ใจต่อการผลิตและเลือกนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายที่ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น

 

ทั้งนี้ สมอ.อยู่ระหว่างปรับปรุงแผนแม่บทการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับการยกระดับอุตสาหกรรม 4.0 และสอดรับกับการส่งเสริม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) โดยการปรับปรุงจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกับเป้าหมายของรัฐบาล เพื่อให้ GDP ของภาคอุตสาหกรรมขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจะนำร่องในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบราง เกษตรแปรรูป อากาศยาน เป็นต้น

 

นอกจากนี้ สมอ.ยังได้เตรียมลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับ 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในการปรับปรุงมาตรฐานสินค้า 22 รายการ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงแผนแม่บทของ สมอ.

 

“ในวันที่ 2 ก.ย.2559 นี้ ทาง สมอ.ได้เตรียมเปิดโครงการร้าน มอก.ขึ้น เพื่อช่วยให้ประชาชนได้เลือกซื้อสินค้าที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย โดยเริ่มจากโมเดิร์นเทรดก่อน เพราะส่วนใหญ่ประชาชนจะเลือกซื้อสินค้าจากโมเดิร์นเทรด ซึ่ง สมอ.ได้คัดเลือกนำร่องโมเดิร์นเทรด 5 ราย รวม 431 สาขา หลังจากนั้นในปี 2560 ก็จะเริ่มสำรวจร้านค้าทั่วไป โดยตั้งเป้า 5 ปี ต้องมีร้านค้าทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 10,000 แห่ง" นายธวัช กล่าว

 

สำหรับโมเดิร์นเทรดที่ผ่านมาตรฐานร้าน มอก. ได้แก่

 

1.เทสโก้ โลตัส (บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด) จำนวน 173 สาขา 2.แม็คโคร (บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)) จำนวน 98 สาขา 3.โฮมโปร (บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)) จำนวน 78 สาขา 4.ไทวัสดุ (บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด) จำนวน 42 สาขา 5.โกลบอล เฮ้าส์ (บริษัท สยามโกลบอล เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)) จำนวน 40 สาขา

 

สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกนั้นจะคัดเลือกร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมาย มอก. ซึ่งจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ หากผ่านเกณฑ์แล้ว จะได้ตราสัญลักษณ์ร้าน มอก. มีอายุ 3 ปี และระหว่าง 3 ปี จะมีเจ้าหน้าที่เข้าสุ่มตรวจสอบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากพบว่านำสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานมาจำหน่าย จะถูกปลดตราสัญลักษณ์ออกทันที

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics