ข่าวอุตสาหกรรม 6 ก.ค.2559 - นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ… หลังจากบังคับใช้มาแล้ว 24 ปี โดยมีการแก้ไขสาระสำคัญ ดังนี้

● แก้ไขนิยามคำว่า “โรงงานอุตสาหกรรม” จากเดิมการประกอบกิจการโรงงานต้องมีเครื่องจักรขนาดกำลังตั้งแต่ 5 แรงม้าขึ้นไป และมีแรงงาน 5 คน เปลี่ยนเป็นต้องมีขนาดเครื่องจักรตั้งแต่ 50 แรงม้าขึ้นไป และมีแรงงาน 50 คนขึ้นไป จึงจะเข้าข่ายที่จะต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม หรือ ร.ง.4

โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) จะควบคุมดูแลกิจการที่มีขนาดเครื่องจักรตั้งแต่ 50 แรงม้าขึ้นไป ส่วนที่ต่ำกว่า 50 แรงม้า มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำกับดูแล เพื่อติดตามดูแลโรงงานในท้องถิ่นและจัดเก็บค่าธรรมเนียม พร้อมทั้งกำหนดให้มีคณะกรรมการจากบุคคลภายนอกช่วยติดตามดูแลการประกอบกิจการโรงงาน

ปัจจุบันมีโรงงานที่มีเครื่องจักรขนาดกำลัง 50-75 แรงม้า จำนวน 7,455 ราย ขนาด 76-100 แรงม้า จำนวน 71,189 ราย และขนาด 100 แรงม้าขึ้นไป จำนวน 48,621 ราย ทั้งนี้ โรงงานที่อยู่ในการกำกับดูแลของ กรอ.มีทั้งสิ้น 63,265 ราย จากเดิมที่ กรอ.ต้องกำกับดูแลถึง 139,334 ราย โดยได้โอนโรงงานจำนวน 59,000 ราย ที่มีขนาดเครื่องจักรต่ำกว่า 50 แรงม้า ให้ อปท.ดูแล เพื่อลดภาระของ กรอ. และทำให้เกิดความคล่องตัวในการประกอบกิจการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

● แก้ไขการให้อำนาจ รมว.อุตสาหกรรม พิจารณาให้โรงงานผลิต วิจัย ของสถาบันของรัฐ องค์กรของรัฐ หรือกิจการขนาดเล็ก ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.โรงงาน ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ และกำหนดให้ รมว.อุตสาหกรรม มีอำนาจประกาศกำหนดให้โรงงานบางประเภทหรือชนิดที่ใช้เครื่องจักรขนาดตั้งแต่ 5 แรงม้า แต่ไม่ถึง 50 แรงม้า หรือคนงานตั้งแต่ 7 คน แต่ไม่เกิน 50 คน เป็นโรงงานจำพวกที่ 3 ได้

● ปรับปรุงวิธีการออกใบ ร.ง.4 โดยหลักการใหม่เมื่อได้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเรียบร้อยแล้ว กำหนดให้ผู้ขออนุญาตยื่นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้เจ้าพนักงานพิจารณา ตรวจสอบทำเลที่ตั้งโรงงาน เมื่อไม่ขัดต่อกฎหมาย ให้ออกใบอนุญาต ร.ง.4 ได้ทันที และปรับปรุงแก้ไขการต่ออายุใบอนุญาตผู้ประกอบกิจการโรงงาน โดยผู้ขอเพียงแค่ยื่นคำขอและชำระค่าธรรมเนียม แต่ไม่ต้องตรวจโรงงานเหมือนเช่นแต่ก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงกำหนดให้มีการตรวจสอบกำกับดูแลเช่นเดิมตามกฎหมายทุกปี

● ยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมเดิมทั้งหมด และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตใหม่ จากเดิมกำหนดให้ปรับค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต ร.ง.4 เป็นเงิน 100,000 บาท แก้ไขใหม่เป็น 1,000,000 บาท ส่วนค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการโรงงานปีละ 300,000 บาท ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเพื่อหวังให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญต่อการดูแลกิจการตามข้อกำหนด

● กำหนดเพิ่มโทษสำหรับโรงงานที่ปล่อยน้ำเสีย ปล่อยมลภาวะ จากเดิมมีความผิดทางแพ่งอายุความ 1 ปี ปรับ 200,000 บาท เพิ่มโทษเป็นมีความผิดทางอาญา ซึ่งต้องพิจารณาโทษหนักหลายชั้นศาล โทษจำคุก 1 ปี ปรับ 200,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

● กำหนดให้โรงงานต้องจัดให้มีประกันภัย หลักประกัน หรือกองทุน เพื่อเยียวยาความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมถึงความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมด้วย โดยไม่ต้องรอผลการฟ้องร้องต่อศาล

นอกจากนี้ ครม.ยังได้อนุมัติการเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม โดยแต่งตั้ง นายพสุ โลหารชุน จากอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ให้เข้าดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ส่วน นายมงคล พฤกษ์วัฒนา ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics