ข่าวอุตสาหกรรม 10 พ.ค.2559 – วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งประกอบด้วย 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มีมติให้ยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงคำขอต่ออายุประทานบัตรแก่บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)

นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม. ในวันนี้ว่า ก่อนหน้านี้ได้มีประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ร้องเรียนเรื่องการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัคราฯ บริเวณรอยต่อของ 3 จังหวัดดังกล่าวที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่ประชุม ครม.ในวันนี้ได้มีมติให้ยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงคำขอต่ออายุประทานบัตรแก่บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) แต่จะต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมไปจนถึงสิ้นปี 2559 เพื่อให้สามารถนำแร่ที่เหลืออยู่ไปใช้ประโยชน์ได้ แล้วเร่งดำเนินการปิดเหมือง

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะประสานงานกับกระทรวงแรงงานในการให้ความช่วยเหลือ พร้อมประสานผู้ว่าราชการ จ.พิจิตร ให้นำเงินกองทุนพัฒนาท้องถิ่นซึ่งมีเงินทั้งสิ้น 45 ล้านบาท มาให้การช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบด้วย สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจะมีการดูแลและเยียวยา โดยให้กระทรวงสาธารณสุขไปดูแลรักษา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่เกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งก็จะต้องรับฟังข้อมูลและความคิดเห็นร่วมกันจากทั้งสองฝ่าย

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงปัญหาเรื่องการต่อใบอนุญาตเหมืองแร่ทองคำใน จ.พิจิตร ของบริษัท อัคราฯ ว่า ที่ประชุม ครม. จะไม่มีการพิจารณาต่อใบอนุญาต พร้อมทั้งสั่งการไปแล้วว่าภายในสิ้นปี 2559 จะต้องไม่มีการทำเหมืองแร่ทองคำต่อไป จนกว่าจะมีความชัดเจน ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และต้องแก้ด้วยแนวทางนี้ โดยในระหว่างนี้ก็จะต้องแก้ไขปัญหาเรื่องการปรับปรุงและคืนสภาพพื้นที่ รวมถึงการจัดหางานให้คนงานอีกพันกว่าคน

ขณะที่ทางด้าน บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาแถลงว่า เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้บริษัทฯเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทฯยังมีสัมปทานถึงปี 2571 อีกทั้งที่ผ่านมากิจการของบริษัทฯก็ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนแต่อย่างใด และยังสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯยังไม่ได้รับเอกสารแจ้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากทางภาครัฐ โดยจะเร่งหารือทางกฎหมายเพื่อพิจารณาช่องทางการดำเนินการที่สามารถทำได้ต่อไป

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics