ข่าวอุตสาหกรรม 23 พ.ค.2559 - นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวสรุปสถานการณ์ภัยแล้งต่อภาคอุตสาหกรรมว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีโรงงานและเหมืองแร่รายใดประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้จนถึงขั้นหยุดการประกอบกิจการ ซึ่งคาดว่าโรงงานและเหมืองแร่ได้นำน้ำจากแหล่งน้ำสำรองมาใช้ประโยชน์ ได้แก่ น้ำบาดาล หรือบ่อเก็บกักน้ำ

ในส่วนของโรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) วิเคราะห์ความเสี่ยงพบว่ามีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอาจได้รับผลกระทบ คือนิคมอุตสาหกรรมในภาคเหนือ จ.ลำพูน และ นิคมอุตสาหกรรมในภาคกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งปัจจุบัน กนอ.ได้มีมาตรการป้องกันและรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง 3 มาตรการ คือ (1) การส่งเสริมนำน้ำที่ใช้แล้วมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิล (2) การจัดหาแหล่งน้ำบาดาลสำรอง และ (3) การนำน้ำจากแหล่งพื้นที่ใกล้เคียงมาเสริม

ขณะที่ทางด้านกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้สำรวจพื้นที่ขุมเหมืองเพิ่มเติมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ โดยลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำและประเมินปริมาณน้ำเบื้องต้นพบว่ามีขุมเหมืองที่ได้รับการพัฒนาและขุมเหมืองที่สามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์เพื่ออุปโภคและใช้ในพื้นที่เกษตรข้างเคียง จำนวน 34 บ่อเหมือง ปริมาณน้ำ 63,322,160 ลูกบาศก์เมตร

นอกจากนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เองก็ได้กำหนดให้โรงงานที่มีการบำบัดน้ำทิ้งได้ตามค่ามาตรฐานสามารถปล่อยน้ำทิ้งให้กับภาคเกษตรนำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่การเกษตร ซึ่งที่ผ่านมามีการนำน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดตามค่ามาตรฐานไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่การเกษตร 772,560 ลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่การเกษตร 4,419 ไร่ มีโรงงานเข้าร่วมโครงการ 5 ราย ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี ประจวบคีรีขันธ์ อุดรธานี ตาก และร้อยเอ็ด

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics