HOT

หวั่นภัยแล้งทำโรงงานกว่าพันรายมีปัญหาผลิต
POSTED ON 01/03/2559


ข่าวอุตสาหกรรม 1 มี.ค.2559 - นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงผลกระทบของสถานการณ์ภัยแล้งต่อภาคอุตสาหกรรมว่า จากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งรวม 24 จังหวัด

 

โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้มีการติดตามข้อมูลปริมาณน้ำในเขื่อนหลักและแหล่งกักเก็บน้ำสำรองจากกรมชลประทานและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งพบว่าอุตสาหกรรมในจังหวัดภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ได้แก่  เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง กำแพงเพชร ตาก และพิษณุโลก ส่วนภาคอีสาน ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี ชัยภูมิ และอุบลราชธานี และภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และนครปฐม

 

"กรอ.และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศได้มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ นั่นจึงทำให้โรงงานส่วนใหญ่มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ซึ่งประเมินว่าน้ำในภาคอุตสาหกรรมจะมีใช้เพียงพอในการผลิต ส่วนพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำน้อยนั้นทาง กนอ.ได้วางมาตรการรองรับไว้แล้ว และเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาการแย่งน้ำกับภาคประชาชนที่ใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค รวมถึงน้ำเพื่อการเกษตรและการท่องเที่ยว" นายอาทิตย์ กล่าว

 

สำหรับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้น้ำและระบายน้ำเสียจำนวนมากที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในปีนี้มีประมาณ 1,131 ราย อาทิ อุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมฟอกย้อม อุตสาหกรรมแป้งมัน และ อุตสาหกรรมฆ่าสัตว์

 

ทั้งนี้ โรงงานต่างๆ จำเป็นต้องหาแนวทางในการลดการใช้น้ำที่เหมาะสม ซึ่งควรพิจารณาเทคนิคให้สอดคล้องกับระบบเดิม รวมถึงความยากง่ายในการปรับเปลี่ยนวิธีและการดำเนินงานของโรงงานด้วย เพื่อให้โรงงานใช้น้ำอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพตามหลัก 3R ซึ่งได้แก่ ลดการใช้น้ำ (Reduce) ใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอรับคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้

 

"ในฤดูแล้งปีนี้ กรอ.ได้ขอความร่วมมือให้โรงงานทุกแห่งให้ช่วยกันลดการใช้น้ำและระมัดระวังเรื่องการระบายน้ำทิ้งออกจากโรงงาน โดยเฉพาะโรงงานที่มีปริมาณน้ำทิ้งมากกว่า 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ควรหาแนวทางลดการระบายน้ำทิ้งออกจากโรงงาน ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.-มิ.ย.2559 เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียในแหล่งน้ำธรรมชาติ และถึงแม้โรงงานจะระบายน้ำทิ้งตามค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ แต่ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียได้เช่นกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำและอัตราการไหลของน้ำในแม่น้ำและคลองต่างๆ" นายอาทิตย์ กล่าว

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics