HOT

เหมืองแร่อัคราฯ ขาดทุนหนัก บริษัทแม่สั่งปรับแผนลงทุนในไทย
POSTED ON 17/02/2559


ข่าวอุตสาหกรรม 17 ก.พ.2559 - นสพ.ประชาชาติธุรกิจ รายงานข่าวในวันนี้ว่า บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) จากประเทศออสเตรเลีย ได้ประกาศทบทวนนโยบายการลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากผลประกอบการปี 2558 ของบริษัท อัคราฯ ขาดทุนมากกว่า 2,000 ล้านบาท นับเป็นการขาดทุนครั้งแรกหลังจากเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยตั้งแต่ปี 2536

 

นายสิโรจ ประเสริฐผล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ครอบคลุมพื้นที่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์, พิจิตร และพิษณุโลก เปิดเผยว่า เหตุผล 2 ประการที่ทำให้บริษัทฯประสบกับภาวะขาดทุนดังกล่าว เนื่องจาก (1) ราคาทองคำในตลาดโลกตกลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากราคาย้อนหลังในช่วง 4-5 ปีที่แล้วราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาทต่อออนซ์ แต่ปัจจุบันราคาทองคำตกลงมาอยู่ที่ระดับ 1,100 บาทต่อออนซ์ และ (2) ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯถูกกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) สั่งปิดเหมืองชั่วคราวรวม 45 วัน ส่งผลให้บริษัทฯสูญเสียรายได้ไปกว่า 528 ล้านบาท นอกจากนี้ นโยบายการทำเหมืองทองคำของ กพร.ยังติดปัญหาผลกระทบกับชุมชน ทำให้การยื่นขอประทานบัตรเพื่อทำการขุดเจาะเหมืองแร่แห่งใหม่ต้องหยุดชะงักลงไปเป็นเวลาถึง 8 ปี ขณะที่เหมืองปัจจุบันของบริษัทฯกำลังจะหมดอายุสัมปทานในอีก 1 ปีข้างหน้า

 

"ที่ผ่านมา บริษัทฯยอมรับว่า เกิดแรงเสียดทานจากปัญหาชุมชนในพื้นที่ ล่าสุดได้ตัดสินใจปิดบริษัท อัครา (สำรวจ) ซึ่งทำหน้าที่สำรวจแหล่งแร่ไปแล้ว ส่งผลให้ต้องเลิกจ้างพนักงานไป 160 คน" นายสิโรจน์ กล่าว

 

ก่อนหน้านี้บริษัทฯได้ยื่นขออาชญาบัตรสำรวจแร่ไป 107 ฉบับ ขอต่ออายุประทานบัตร 1 ฉบับ และขอประทานบัตรใหม่ 1 ฉบับ แต่ติดตรงที่รัฐบาลใช้เวลาในการพิจารณานานหลายปี ทำให้บริษัทฯประสบภาวะขาดทุน ดังนั้น ทางรอดในตอนนี้คือการได้ประทานบัตรขุดเจาะกับราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น อย่างน้อยหากบริษัทฯไม่ได้ประทานบัตร แต่ราคาทองคำขึ้น บริษัทฯก็ยังอยู่ได้

 

ซึ่งในปี 2557 บริษัทฯมีกำไร 1,043 ล้านบาท แต่ในปี 2558 กลับขาดทุนกว่า 2,085 ล้านบาท รายได้ดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 60% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท คิงส์เกต ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในออสเตรเลีย และบริษัทฯได้จ่ายค่าภาคหลวงและภาษีให้กับรัฐบาลไทยไปแล้วกว่า 3,848 ล้านบาท ส่งเงินเข้ากองทุน 8 กองทุน เพื่อพัฒนาชุมชน 207 ล้านบาท ตอนนี้ทีมสำรวจของอัคราฯจาก 140 คน เหลืออยู่เพียง 25 คนเท่านั้น เนื่องจากบริษัทฯไม่มีงานให้ทำ จึงจำเป็นต้องให้ลาออกไป

 

ขณะที่ทางด้าน นายวิจิตร เจียมวิจิตรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) ก็กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า "บริษัทฯจะลดบทบาทความสำคัญของธุรกิจเหมืองแร่ทองคำลง และมุ่งขยายการลงทุนไปยังเหมืองหินที่ จ.สระบุรี แทน นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีการลงทุนเหมืองแร่ดีบุก, ถ่านหิน และแร่พลวง ที่ประเทศเมียนมาร์, สปป.ลาว และมาเลเซีย พร้อมกับตั้งเป้ารายได้ปีนี้ทั้งหมด 600 ล้านบาท"

 

ด้าน นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า "ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผลกระทบและแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้ง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ จากการทำเหมืองทองคำของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนถึงสาเหตุของอาการป่วยของชาวบ้านว่ามีสาเหตุมาจากเหมืองแร่ทองคำ"

 

ทั้งนี้ การตรวจอาการเบื้องต้นของผู้ป่วยจำนวน 17 ราย พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กับสารโลหะ ซึ่งชี้ให้เห็นในเบื้องต้นว่า การป่วยอย่างโรคผิวหนัง หลอดเลือดตีบ ไม่ได้มาจากการทำเหมืองทองคำ ในกรณีที่รายใดยังไม่มีความมั่นใจก็จะส่งเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีต่อไป

 

"ขณะนี้ได้เตรียมแก้ไขกฎระเบียบการทำเหมืองภายใต้ EIA เพิ่มเติม ทั้งการรวบรวมข้อมูลทางด้านมลภาวะทางอากาศ สารปนเปื้อน ปริมาณฝุ่น และปริมาณโลหะในทุกแหล่ง ก่อนทำเหมือง ซึ่งหากมีปัญหาในอนาคตจะได้เอาข้อมูลก่อนทำเหมืองมาเปรียบเทียบได้" นายอาทิตย์ กล่าว

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics