HOT

อุตฯ สั่ง สมอ.ตรวจสอบผลกระทบเหล็ก เร่งออก มอก.สกัดเหล็กจีน
POSTED ON 13/11/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - นสพ.ประชาชาติธุรกิจ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2558 ที่ผ่านมา ว่า หลังจากที่ผู้ประกอบการใน 7 สมาคมเหล็กของไทยได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้เร่งรัดมาตรการช่วยเหลือจากผลกระทบการนำเข้าเหล็กจีนที่ถูกทุ่มตลาด (เอดี) นั้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้หารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว และได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กลับไปตรวจสอบผลิตภัณฑ์เหล็กที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยกำหนดมาตรการระยะกลาง คือ การเร่งออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) แบบบังคับให้ครอบคลุมสินค้าเหล็กทั้งหมด รวมถึงการปรับให้มาตรฐานทั่วไปเป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเหล็กทั้งในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ

 

นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม ระบุว่า การดำเนินงานดังกล่าวต้องมีการปรับและแก้ไขให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา สมอ.จะทยอยออกประกาศ และอาจต้องใช้ระยะเวลานาน แต่หลังจากนี้จะดำเนินการให้เสร็จเร็วขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาเหล็กนำเข้าจากจีนตามที่ได้มีการร้องเรียนมา

 

ด้าน นายธวัช ผลความดี เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า เหล็กที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดขณะนี้ คือ เหล็กเส้นกลมและเหล็กข้ออ้อย หรือ มอก.20-2543 เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กเส้นกลม และ มอก.24-2548 เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กข้ออ้อย แต่เนื่องจากยังติดปัญหาเรื่องของกระบวนการผลิตที่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเตาอินดักชั่นสามารถผลิตเหล็กทั้ง 2 ประเภทนี้ได้สะอาดและมีคุณภาพ ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตผู้บริโภค ประกาศ มอก.ใหม่จึงต้องชะงัก แต่ สมอ.จะจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาเหล็กแต่ละชนิด เพื่อเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีภายใน 45 วันนับจากที่ประชุม

 

สำหรับการกำหนดมาตรฐานการเจือธาตุทั้ง 5 ชนิดของเหล็กเส้นในอัตราเท่าใดนั้น คณะกรรมการวิชาการที่ 9 (กว.9) จะต้องนำผลการศึกษาของนานาชาติมาเป็นตัวอ้างอิงและนำมาประกอบการพิจารณาด้วย อาทิ การกำหนดให้มีการเจือธาตุโบรอนต้องไม่เกิน 0.0008% โครเมียมไม่เกิน 0.3% นิกเกิลไม่เกิน 0.3% ซิลิคอนไม่เกิน 0.6% และทองแดงไม่เกิน 0.4% และกำหนดให้มีการแสดงชื่อผู้รับใบอนุญาตนำเข้าบนผลิตภัณฑ์เป็นตัวนูน ซึ่งนี่จะเป็นเกณฑ์ปริมาณธาตุ มอก.เหล็กเส้นใหม่ที่จะประกาศใช้ในอีกไม่นาน

 

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดี กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมเหล็กฯเสนอขอให้ใช้มาตรการเร่งด่วนในการไต่สวน เพื่อบังคับใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็ก 4 รายการ ภายใน 45 วันนั้น ทางกรมฯไม่ได้ดำเนินการล่าช้า แต่เป็นกระบวนการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งจะต้องใช้ความรอบคอบ รับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้ผลิตและผู้นำเข้า ซึ่งระยะเวลาในการพิจารณาจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับข้อมูลและหลักฐานของแต่ละฝ่าย และเมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดจะต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการทุ่มตลาดและอุดหนุน (ทตอ.) ในลำดับถัดไป

 

"ส่วนที่ผู้ประกอบการเสนอให้มีการใช้มาตรการขออนุญาตนำเข้าเหล็ก (Import Licensing) นั้น ต้องเป็นไปตามหลักที่ผูกพันในองค์การการค้าโลก (WTO) ไว้หรือไม่ เพราะหากหยิบมาตรการใดขึ้นมาใช้โดยไม่มีเหตุผลในการใช้ ก็มีความเสี่ยงที่ประเทศผู้ค้าจะใช้มาตรการตอบโต้กับสินค้าไทย ซึ่งอาจเป็นการตอบโต้กับสินค้าอื่นที่ไม่ใช่เหล็ก ดังนั้น กระบวนการพิจารณาต้องเป็นไปอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน" นางดวงพร กล่าว

 

สำหรับการพิจารณาเอดีเหล็ก 4 รายการ ที่ยังไม่เปิดไต่สวน ได้แก่ (1) เหล็กแผ่นรีดร้อนจากบราซิล อิหร่าน และตุรกี ผ่านมา 5 เดือน (2) เหล็กแผ่นรีดร้อนกัดกรดและเคลือบน้ำมันที่นำเข้าจากเกาหลีใต้ ระยะเวลา 2 เดือน (3) เหล็กแผ่นรีดเย็นชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนจากจีน และเกาหลีใต้ ระยะเวลา 8 เดือน และ (4) ท่อเหล็กที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน เวียดนาม และเกาหลีใต้ ผ่านมา 1 เดือน

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

 

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics