ข่าวอุตสาหกรรม - นายวิม วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยา สตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI แถลงว่า บริษัทฯได้ประกาศยุติการผลิตเหล็กแท่งแบนที่โรงงานเอสเอสไอทีไซต์ ที่ดำเนินการโดยสหวิริยา สตีล อินดัสตรี ยูเค หรือ SSI UK ลงชั่วคราว ตั้งแต่เมื่อวันที่  18  ก.ย.2558 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้รอผลการหารือกับรัฐบาลอังกฤษและผู้มีส่วนได้เสียในการร่วมมือลดต้นทุนการผลิตและหยุดผลขาดทุนของธุรกิจโรงถลุงเหล็ก จะส่งผลกระทบต่อรายได้ธุรกิจถลุงเหล็กเฉพาะยอดขายที่จำหน่ายให้บุคคลภายนอก ซึ่งมีประมาณ 52% ของยอดขายรวมของธุรกิจโรงถลุงเหล็กงวด 6 เดือนปี 2558 แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนของบริษัท เนื่องจากยังมีวัตถุดิบเหล็กแท่งแบนสำรองและสามารถจัดซื้อวัตถุดิบแท่งแบนราคาถูกในตลาดได้

สำหรับธุรกิจโรงถลุงเริ่มผลิตเหล็กแท่งแบนปี 2555 และขายทั่วโลก แต่ด้วยภาวะตลาดเหล็กที่ล้นความต้องการอย่างรุนแรงตั้งแต่ไตรมาส 4/2557 จากการอุดหนุนการส่งออของรัฐบาลจีน รวมถึงค่าเงินรัสเซียตกต่ำ และการชะลอตัวขยองเศรษฐกิจจีนและรัสเซีย ทำให้ราคาเหล็กแท่งแบนลดต่ำลงถึง 40% จากในปี 2557 ที่ราคาสูงกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แม้ที่ผ่านมาจะลดต้นทุนไปแล้วถึง 30% ก็ยังมีผลกระทบ ส่งผลให้อีบิด้าของโรงงานถลุงเหล็กติดลบครึ่งแรกของปีนี้

นายวิม  กล่าวว่า "SSI UK มีปัญหาขาดทุน จึงต้องหยุดการผลิตชั่วคราว และในอนาคตจะสามารถเปิดดำเนินการได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการทำข้อตกลงระหว่างผู้มีส่วนได้เสีย และยังมีความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย ดังนั้น ทางกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่ที่ให้เงินกู้แก่ SSI UK ซึ่งประกอบด้วย ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กรุงไทย และธ.ทิสโก้ จึงตัดสินใจเรียกร้องให้ SSI UK ชำระหนี้ที่ค้างตามเงื่อนไขเงินกู้ แต่จากสถานะการเงินในปัจจุบัน ทำให้บริษัทฯไม่สามารถชำระหนี้ได้ กลุ่มธนาคารเจ้าหนี้จึงขอให้ SSI ร่วมรับผิดชอบในการชำระหนี้ดังกล่าวในฐานะผู้ค้ำประกันของ SSI UK ซึ่งมีวงเงินรวมของหนี้ประมาณ 790 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 28,000 ล้านบาท โดยทาง SSI และกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่จะดำเนินการร่วมกันทำแผนปรับปรุงโครงสร้างการเงินและแผนบริหารหนี้ของบริษัทฯให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีเสถียรภาพ"

สำหรับยอดหนี้รวมของ SSI ที่มีอยู่กับกลุ่มเจ้าหนี้ธนาคารรายใหญ่ 3 ราย มีมูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท เป็นหนี้ ธ.ไทยพาณิชย์ 22,000 ล้านบาท ธ.กรุงไทย 22,000 ล้านบาท และ ธ.ทิสโก้ 4,400 ล้านบาท โดยแต่ละธนาคารสำรองเงินสินเชื่อให้แก่ SSI อย่างครบถ้วนเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้แล้ว

ขณะที่ทางด้าน ธ.ทิสโก้ ยังเชื่อมั่นว่า SSI จะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และธนาคารได้ทยอยตั้งเงินสำรองเพิ่มขึ้นอีก 1,400-1,500 ล้านบาท เพื่อให้ครบ 100% ซึ่งการตั้งสำรองอาจส่งผลต่อผลประกอบการบ้าง แต่ไม่เป็นนัยสำคัญ เนื่องจากได้กันเงินสำรองไปอย่างเพียงพอแล้ว

ปัจจุบัน SSI มีส่วนแบ่งการตลาดแข็งแกร่งและเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในตลาดเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา ธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่รับทราบความจำเป็นการของการหยุดผลิตชั่วคราวของ SSI UK และเชื่อว่าธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนของ SSI ยังมีความสามารถในการแข่งขันสูง จึงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ 

"พนักงานที่ประเทศอังกฤษมีประมาณ 2,000 คน บริษัทฯอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับรัฐบาลอังกฤษ สหภาพแรงงาน และตัวแทนพนักงาน ในการชดเชยและดูแลพนักงาน อย่างไรก็ตาม SSI กำลังพิจารณาทางออกของโรงถลุงเหล็กดังกล่าว โดยอาจจะขายออกหรือปิดกิจการถาวร" นายวิม กล่าว

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics