HOT

โฟล์คสวาเกน โดนสอบหนัก หลังพบซอฟต์แวร์โกงค่าไอเสียติดตั้งในรถกว่า 5 แสนคัน
POSTED ON 24/09/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - คณะกรรมการการแข่งขันและคุ้มครองผู้บริโภคของออสเตรเลีย (ACCC) อยู่ในระหว่างตรวจสอบว่า รถโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) และ รถออดี้ (Audi) ที่จำหน่ายในออสเตรเลียนั้นได้รับผลกระทบจากโปรแกรมโกงผลตรวจไอเสียหรือไม่ โดย นายคาร์ล เกห์ลิง โฆษกโฟล์คสวาเกนประจำออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทฯกำลังรอรับข้อมูลจากสำนักงานใหญ่ที่เยอรมนี เพื่อตรวจสอบว่ารถรุ่นใดบ้างที่เข้าข่ายได้รับผลกระทบ

 

โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า โฟล์คสวาเกนได้ติดตั้งซอฟท์แวร์ในรถยนต์ดีเซลเกือบ 500,000 คันเพื่อทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยไอเสียน้อยกว่าความเป็นจริง โดยโปรแกรมที่ทางบริษัทฯติดตั้งในรถยนต์ดีเซลนั้นจะทำให้เครื่องยนต์เข้าสู่โหมดพลังงานสะอาดหากกำลังถูกเจ้าหน้าที่ทำการตรวจจับมลพิษ และเมื่อผ่านพ้นช่วงดังกล่าว โปรแกรมก็จะทำให้รถยนต์กลับมาอยู่ในโหมดขับขี่ปกติ ซึ่งจะทำให้มีการปล่อยมลพิษมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายถึง 40 เท่า

 

ขณะที่ทางโฟล์คสวาเกน ก็ออกมาเยอมรับว่า ซอฟต์แวร์ที่ทางบริษัทฯได้ดำเนินการติดตั้งเพื่อทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยไอเสียน้อยกว่าความเป็นจริงนั้นครอบคลุมรถยนต์ราว 11 ล้านคันทั่วโลก โดยขณะนี้ทางบริษัทฯได้เตรียมสำรองเงินจำนวน 7,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2.55 แสนล้านบาท เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็นไว้แล้ว

 

ทั้งนี้ หากพบว่าบริษัทฯมีความผิดจริง ก็จะถูกทางการสหรัฐฯ ปรับเป็นเงินจำนวน 37,500 เหรียญสหรัฐต่อคัน ซึ่งจะรวมกันมากกว่า 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6.3 แสนล้านบาท

 

ด้าน ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมที่จะขายทิ้งหุ้น 1.5% ในบริษัท โฟล์คสวาเกน เอจี ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรกับทางซูซูกิ โดยในสัปดาห์นี้หุ้นของโฟล์คสวาเกนร่วงลงเกือบ 25% เนื่องจากข่าวอื้อฉาวดังกล่าวส่งผลให้มูลค่าหุ้นที่ซูซูกิถืออยู่ในบริษัท โฟล์คสวาเกน ลดลงเกือบ 190 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6,650 ล้านบาท ในช่วงเวลาดังกล่าว โดย นายเอะอิ โมจิซุกิ โฆษกของซูซูกิ ระบุว่า ทางบริษัทฯจะศึกษาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจขายหุ้น และยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะขายหุ้นในโฟล์คสวาเกน

 

ซูซูกิและโฟล์คสวาเกนจับมือเป็นพันธมิตรกันในปี 2552 โดยโฟล์คสวาเกนสนใจความเชี่ยวชาญเรื่องรถขนาดเล็กและกิจการของซูซูกิในอินเดีย ขณะที่ซูซูกิหวังจะได้ใช้เทคโนโลยีประหยัดเชื้อเพลิงของโฟล์คสวาเกน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัทไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากความแตกต่างกันเรื่องวัฒนธรรมองค์กร และก่อนหน้านี้ โฟล์คสวาเกนได้กล่าวหาซูซูกิว่าละเมิดข้อตกลงการเป็นพันธมิตร หลังซูซูกิซื้อเครื่องยนต์ดีเซลจาก Fiat SpA ในอิตาลี แต่ซูซูกิได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

 

ขณะที่ทางด้าน นายมาร์ติน วินเทอร์คอร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของโฟล์คสวาเกน เอจี ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ (23 ก.ย.2558) เพื่อรับผิดชอบต่อกรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้น โดยการลาออกครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่เขาถูกคณะกรรมการบริหารของโฟล์คสวาเกนเรียกตัวเขามาชี้แจงต่อกรณีข่าวดังกล่าว ทั้งนี้ นายวินเทอร์คอร์นมีสิทธิได้รับเงินบำนาญมูลค่า 32 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,120 ล้านบาท) และอาจจะได้รับเงินชดเชยการลาออกอีกหลายล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของคณะกรรมการฝ่ายกำกับดูแลของบริษัทฯ

 

รายงานระบุว่า เงินบำนาญของนายวินเทอร์คอร์นมีมูลค่า 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2557 และมีโอกาสที่จะได้รับเงินชดเชยการลาออกในสัดส่วนเท่ากับรายได้เป็นเวลา 2 ปี โดยนายวินเทอร์คอร์นนับเป็นซีอีโอที่ได้รับเงินเดือนสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของเยอรมนีในปีที่แล้ว

 

ด้านหนังสือพิมพ์ Tagesspiegel รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในคณะกรรมการบริหารของโฟล์คสวาเกนว่า นายมัทเทียส มูลเลอร์ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายธุรกิจรถสปอร์ตของปอร์เช่ ซึ่งอยู่ในเครือของโฟล์คสวาเกน จะเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอแทนที่นายวินเทอร์คอร์น

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics