ข่าวอุตสาหกรรม - นสพ.ประชาชาติธุรกิจ รายงานเมื่อวันที่ 14 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา ต่อกรณีที่ นายอธิภูมิ กำธรวรรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีศิลป์ เซรามิก จำกัด และประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ออกมาเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเซรามิกของจังหวัดลำปางในช่วงครึ่งปีนี้อยู่ในภาวะทรงตัว ยอดขายลดลง 30-40% รายได้หายไปกว่า 1,400 ล้านบาท จากยอดขายเซรามิกของจังหวัดลำปางที่มีมูลค่าประมาณ 3,500 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นการส่งออก 1,500 ล้านบาท และขายในประเทศ 2,000 ล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มค่อนข้างซบเซาทั้งตลาดในประเทศและส่งออก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว

ทั้งนี้ ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางอุตสาหกรรมเซรามิกของจังหวัดลำปางได้ลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยหลายสาเหตุ อาทิ ต้นทุนค่าแรง และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบและพลังงานที่มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้ปัจจุบันราคาเชื้อเพลิงเริ่มนิ่ง แต่หยุดนิ่งในระดับสูง ผู้ประกอบการไม่สามารถจะปรับราคาสินค้าได้มากนัก เพราะการแข่งขันก็สูงขึ้นเช่นกัน

"ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งคือ การขาดแคลนแรงงานมีฝีมือ ซึ่งไม่มีแรงงานใหม่เข้ามาในระบบการผลิตเลย สาเหตุจากการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก ภาคการเกษตร และการกู้ยืมทางการศึกษาของรัฐบาล ทำให้แรงงานใหม่เข้าไปสู่ภาคธุรกิจอื่น ปัจจุบันในจังหวัดลำปางเหลือแรงงานในระบบอุตสาหกรรมเซรามิกราว 7,000 คนเท่านั้น จากเดิมที่มีอยู่เกือบ 10,000 คน และมีโอกาสสูงที่ผู้ประกอบการหลายรายอาจจะหยุดกิจการแบบชั่วคราวหรือหยุดกิจการในระยะยาว เพราะขาดเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งเห็นควรให้ภาครัฐเข้ามาให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นให้แก่ผู้ประกอบการ" นายอธิภูมิ กล่าว

สำหรับโรงงานเซรามิกในลำปาง แบ่งเป็น โรงงานขนาดใหญ่ 20% ขนาดกลาง 20% และโรงงานขนาดเล็ก 60% ซึ่งเป็นกิจการที่ทำกันในครัวเรือน ส่วนใหญ่เน้นผลิตถ้วยชามที่ทำกันมาแต่ดั้งเดิม ไม่เน้นเรื่องดีไซน์หรือคุณภาพมากนัก โดยการปรับตัวของโรงงานขนาดกลางคือการให้รับงานไปทำที่บ้าน เพื่อลดต้นทุนค่าแรง ส่วนโรงงานขนาดใหญ่ก็เริ่มมีการปรับลดชั่วโมงการทำงานลงเป็นบางวัน เพื่อรักษาแรงงานเดิมไว้ โดยยังไม่มีการเลิกจ้างแรงงาน เป็นช่วงของการประคองธุรกิจ เพื่อรอออร์เดอร์เข้ามาในช่วงปลายปี

ด้าน นายธนโชติ วนาวัฒน์ ที่ปรึกษานายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง เปิดเผยว่า "อุตสาหกรรมเซรามิกของจังหวัดลำปางในขณะนี้อยู่ในสภาพประคับประคองตัว ซึ่งสัดส่วนตลาดในประเทศที่มีราว 80% และส่งออก 20% มียอดขายลดลงอย่างมากเกือบ 40% โดยเฉพาะตลาดในประเทศที่เป็นตลาดหลักของอุตสาหกรรมเซรามิกลำปางทั้งระบบ ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการเซรามิกทยอยปิดกิจการไปแล้วเกือบ 50 โรง จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะต้นทุนพลังงาน ค่าแรง และการขาดแคลนแรงงานฝีมือ ปัจจุบันเหลือโรงงานเซรามิกในลำปางราว 180-200 โรงเท่านั้น"

"ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้นยังไม่พบการปิดกิจการ ซึ่งคาดว่าผู้ประกอบการเซรามิกในลำปางยังคงรอโอกาสที่จะผลิตสินค้าในช่วงปลายปีที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดเออีซีปลายปีนี้น่าจะเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมเซรามิกไทยที่จะเปิดตลาดในกลุ่มนี้ได้มากขึ้นอีกด้วย" นายธนโชติ กล่าว

"อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯต้องการให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนการจัดตั้งสหกรณ์เซรามิกลำปาง รวมถึงการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ให้มีเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจและประคับประคองธุรกิจให้ได้ เพื่อรอกำลังซื้อกลับคืนมา" นายธนโชติ กล่าว

อ้างอิง : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1439384849

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing