HOT

กมอ.โดนโวยหนัก หลังไฟเขียวผลิตเหล็กเตาอินดักชั่นผ่าน มอก.
POSTED ON 23/06/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - นสพ.ประชาชาติธุรกิจ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2558 ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) ซึ่งมี "นางอรรชกา ศรีบุญเรือง" ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2558 ที่ผ่านมานั้น ได้มีการพิจารณารายงานของคณะกรรมการที่เข้าไปตรวจสอบกระบวนการผลิตเตาอินดักชั่นแล้ว และได้ลงมติผ่านความเห็นชอบให้เหล็กที่ผลิตด้วยเตาไฟฟ้าแบบอินดักชั่นได้รับมาตรฐาน มอก.เทียบเท่าเตาอิเล็กทริกอาร์ก โดยต่อไปการให้มาตรการ มอก.ในการผลิตเหล็กไม่ต้องดูกระบวนการผลิต แต่ให้ลูกค้าตัดสินใจดูคุณภาพที่ปลายทาง โดยอิงมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาและยุโรป

 

แหล่งข่าวจากวงการเหล็ก ระบุว่า การที่ กมอ.ลงมติให้เหล็กที่ผลิตด้วยเตาอินดักชั่นได้รับมาตรฐาน มอก. โดยไม่ต้องดูกระบวนการผลิต สร้างความสั่นสะเทือนให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ในวงการเหล็กเองเสียงแตกออกเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งเห็นว่าการให้มาตรฐาน มอก.เตาอินดักชั่น เท่ากับเป็นการลดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเลข มอก.20-2543 เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กเส้นกลม และ มอก.24-2548 เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กข้ออ้อย ซึ่งเรื่องนี้ผู้ประกอบการที่ผลิตเหล็กคุณภาพคงยอมรับไม่ได้ และเห็นว่าการดูกระบวนการผลิตเหล็กควรจะมีอยู่ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากผู้ประกอบการบางรายของไทยยังไม่มีความซื่อสัตย์ ไม่สามารถใช้มาตรฐานเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรปได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกำลังหารือจะรวมตัวกันในการเคลื่อนไหวคัดค้านมติดังกล่าว ขณะที่อีกฝ่ายมีความเห็นว่า การให้ผู้บริโภคตัดสินใจพิจารณาคุณภาพสินค้าที่ปลายทางเป็นทางออกที่ดี แต่ต้องมีการตรวจสอบเรื่องคุณภาพให้เข้มงวด

 

ตามขั้นตอนภายในเดือนกรกฎาคม 2558 จะมีการรับรองผลจากรายงานเตาอินดักชั่น จากนั้นจะเข้าสู่การร่างข้อความเพื่อพิจารณาเตรียมประกาศต่อไป หากมีการประกาศมาตรฐานเหล็กเส้นและอนุญาตให้เตาอินดักชั่นผ่านคุณภาพมาตรฐานเตาหลอมเหล็ก เมื่อถึงขณะนั้นวงการเหล็กจะยิ่งสั่นสะเทือนมากกว่านี้แน่นอน แม้ สมอ. จะอ้างว่าสามารถควบคุมมาตรฐานได้ก็ตาม แต่ที่ผ่านมาเวลามีปัญหาเรื่องคุณภาพเหล็กกว่าสมอ.จะเข้าไปตรวจสอบได้แล้วเสร็จใช้เวลาค่อนข้างนาน

 

แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ภายใน ส.อ.ท.เกิดความขัดแย้งอย่างหนัก โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เบื้องหลังของมติที่ผ่านความเห็นชอบสืบเนื่องจาก ดร.ทรงวุฒิ ไกรภัสสพงษ์ ประธานกลุ่มเหล็ก ส.อ.ท.ได้รับเชิญจาก สมอ.ไปให้ความเห็นในฐานะนักวิชาการให้เข้าไปตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องเตาอินดักชั่นร่วมกับคณะทำงานที่ สมอ.ตั้งขึ้น ซึ่ง ดร.ทรงวุฒิ ได้แสดงความคิดเห็นว่า การที่ สมอ.มีนโยบายจะกำหนดว่าต่อไปการผลิตเหล็กไม่ต้องพิจารณาเรื่องกระบวนการผลิต สามารถทำได้เหมือนกับมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอังกฤษ ซึ่งทาง สมอ.จำเป็นต้องแยกประกาศขอบข่ายของสินค้าแต่ละประเภทให้ชัดเจน ให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้นในการพิจารณาว่าจะใช้สินค้าจากราคาหรือคุณภาพ อย่างเหล็กก่อสร้างไม่จำเป็นต้องไปดูที่กระบวนการผลิต เนื่องจากปลายทางป้อนให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้างอยู่แล้ว

 

ซึ่งสมาชิกกลุ่มเหล็ก ส.อ.ท.ส่วนใหญ่เห็นว่า การแสดงความเห็นลักษณะดังกล่าว เป็นการเข้าข้างผู้ผลิตเตาอินดักชั่น ทั้งที่ มติผู้ประกอบการกลุ่มเหล็ก ส.อ.ท. ลงความเห็นให้คัดค้านการผลิตเหล็กจากเตาอินดักชั่นในการที่จะรับ มอก. และความเห็นดังกล่าวไปขัดแย้ง และลบล้างกับความเห็นของตัวแทนกลุ่มเหล็กจาก ส.อ.ท.ที่เข้าไปนั่งเป็นกรรมการใน กมอ. ทำให้ในการประชุมคณะกรรมการ 14 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท.ได้มีการหยิบยกประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาหารือในที่ประชุม โดยในที่ประชุมส่งสัญญาณที่จะปลด ดร.ทรงวุฒิ ออกจากตำแหน่งประธานกลุ่มเหล็ก แต่ ดร.ทรงวุฒิ ยืนยันว่าที่ผ่านมาทำตามจริยธรรม เพราะตนได้ทำการศึกษาเรื่องเตาหลอมเหล็กแล้วหลายครั้ง พร้อมกับบอกว่าจะลดบทบาทตัวเองลง แต่ไม่ลาออก ซึ่งได้สร้างความคลางแคลงใจให้ผู้ประกอบการหลายคน