HOT

ญี่ปุ่นวอนไทยทบทวนโควตาเหล็กนำเข้า
POSTED ON 22/06/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - นสพ.ประชาชาติธุรกิจ รายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า "นายอะกิระ มูราโคชิ" ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ คนใหม่ ได้เข้าพบ "นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช" รมว.อุตสาหกรรม เพื่อหารือและขอให้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมทบทวนเรื่องโควตาเหล็กนำเข้า ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมการบริหารนำเข้าสินค้าหมวดเหล็กและเหล็กกล้า ที่มีโควตาตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ได้กำหนดปริมาณโควตานำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากประเทศญี่ปุ่นในปี 2558 ลดลงเหลือเพียง 60% เท่านั้น เนื่องจากต้องการสนับสนุนเหล็กในประเทศมากขึ้น ดังนั้น จึงต้องการให้หารือเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง โดยระบุว่าเหล็กที่ใช้ในการผลิตโดยเฉพาะการผลิตรถยนต์จำเป็นต้องใช้เหล็กคุณภาพสูง

 

นายอะกิระ มูราโคชิ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) กล่าวว่า "ปัจจุบันเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI ที่เข้ามาลงทุนในไทยในแต่ละปี ครึ่งหนึ่งเป็นของนักลงทุนญี่ปุ่น อีกทั้งหอการค้าญี่ปุ่นในประเทศไทยยังมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากหอการค้าญี่ปุ่นในเซี่ยงไฮ้เท่านั้น ซึ่งหอการค้าญี่ปุ่นในไทยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสมาชิกให้แซงหน้าเซี่ยงไฮ้ในเร็วๆ นี้ จึงขอให้รัฐบาลไทยเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางกายภาพและระบบต่างๆ ด้วยความโปร่งใส เพื่อรองรับการลงทุน"

 

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเชื่อว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางการลงทุนของอาเซียนได้ แม้ขณะนี้เศรษฐกิจไทยจะยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่อีก 5-10 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจไทยน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยนักลงทุนญี่ปุ่นจะยังคงทำธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการและรัฐบาลไทยต่อไป

 

ขณะที่ทางด้าน นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลไทยได้เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแล้ว โดยกระทรวงคมนาคมระบุว่า ทุกโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2570 อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ขนาดราง 2 ประเภท คือ ระบบรางมาตรฐานขนาด 1 เมตร จำนวน 2 ราง และขนาด 1.25 เมตร อีก 2 ราง และจะเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิตอล รวมถึงการเปิดประมูลโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 4G สำหรับโทรศัพท์มือถืออีกด้วย

 

"ส่วนกรณีที่นักลงทุนญี่ปุ่นกังวลเรื่องปัญหาน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมนั้น มองว่าไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากภาพรวมประเทศไทยน่าจะเผชิญกับภัยแล้งมากกว่า ทั้งนี้ ยืนยันว่านิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกหรืออีสเทิร์นซีบอร์ด จะยังคงมีน้ำใช้อย่างเพียงพออย่างแน่นอน" รมว.อุตสาหกรรม กล่าว

 

อ้างอิง : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1434117188