ข่าวอุตสาหกรรม - สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ (Samsung) ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ประกาศหยุดสายการผลิตทีวีในประเทศไทยเมื่อไตรมาสแรกของปี 2558 ที่ผ่านมา โดยโฆษกของซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ แถลงถึงเหตุผลที่บริษัทฯต้องหยุดสายการผลิตทีวีในประเทศไทยว่า เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าในระดับโลกให้มากขึ้น

ทั้งนี้ หลายฝ่ายคาดว่าซัมซุงน่าจะย้ายฐานการผลิตไปเวียดนาม ซึ่งมีค่าแรงที่ถูกกว่าไทย สอดรับกับเมื่อปีที่ผ่านมาทางบริษัทฯได้ประกาศถึงแผนการลงทุนกว่า 560 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 17,920 ล้านบาท) เพื่อสร้างคอมเพล็กซ์สำหรับผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภคในเวียดนาม โดยหลักๆ จะทำการผลิตทีวี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเพิ่มผลผลิตข้ามเซ็กเมนต์ รวมถึงสมาร์ทโฟนและจอดิสเพลย์ในประเทศที่มีต้นทุนต่ำ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงไม่ให้คำตอบต่อข้อซักถามดังกล่าว

ขณะที่ทาง "แอลจี อิเล็กทรอนิกส์" (LG) ผู้ผลิตทีวีอันดับ 2 ของโลก ก็เตรียมจะย้ายฐานการผลิตทีวีจากไทยไปเวียดนามเช่นกัน ซึ่งบริษัทฯได้ลงทุนเครื่องจักรใหม่สำหรับผลิตทีวีในเวียดนามเทียบเท่ากับโรงงานในเกาหลีใต้ โดยทางแอลจีให้เหตุผลว่าต้องการมีฐานการผลิตในระดับภูมิภาคเพียงแห่งเดียว อีกทั้งบริษัทแม่ยังมองว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีความคุ้มค่ามากที่สุดในการลงทุน ทั้งในเรื่องค่าแรง คุณภาพ และโลจิสติกส์ ซึ่งปัจจุบันวัตถุดิบในการผลิตเกือบทั้งหมดถูกนำเข้าจากจีน และใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการส่งวัตถุดิบมาไทย ขณะที่เส้นทางจีน-เวียดนามใช้เวลาน้อยกว่าประมาณ 1 สัปดาห์

แอลจี ถือเป็นผู้ผลิตทีวียักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากค่ายซัมซุง โดยมียอดขายทั่วโลกกว่า 5.31 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.73 ล้านล้านบาท ส่วนแอลจีในประเทศไทยมีการผลิตทีวีปีละกว่า 6 แสนเครื่อง คิดเป็นมูลค่าราว 8 พันล้านบาท โดย 1 แสนเครื่องเป็นการส่งออก

ปัจจุบันอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยมีการผลิตใช้ในประเทศคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท โดยเป็นการผลิตโทรทัศน์ 2.5 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้ามีมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท