HOT

อุตฯคุยกรมป่าไม้ขอพื้นที่สร้างสนามทดสอบยานยนต์กลาง
POSTED ON 11/05/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกระทรวงฯกำลังเจรจากับกรมป่าไม้ เพื่อขอพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมใน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 900 ไร่ เพื่อสร้างสนามทดสอบกลางของประเทศ โดยจะมีลู่วิ่งยาว 3.6 กิโลเมตร และมี 8 สนามทดสอบ คาดใช้เงินลงทุนราว 4,000 ล้านบาท ไม่รวมมูลค่าที่ดิน และจะได้ข้อสรุปพร้อมเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ ครม.ภายในเดือน ต.ค.2558 นี้

 

สำหรับสนามทดสอบดังกล่าวจะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกจะเป็นทดสอบล้อและยาง ซึ่งปัจจุบันไทยยังต้องส่งล้อยางไปทดสอบในต่างประเทศ ขณะที่ในเฟสที่ 2 จะเป็นสนามทดสอบและรับรองยางล้อทุกประเภท ตามมาตรฐานสากล 10 มาตรฐาน และเฟสที่ 3 ศูนย์ทดสอบรับรองรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ตามมาตรฐานสากล คาดว่าน่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการรวม 3 ปี แล้วเสร็จในปี 2561 เพื่อให้สนามแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการทดสอบรถยนต์ของภูมิภาค

 

ด้าน นายริวโกะ นาคาโอะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า มิตซูบิชิได้เปิดสนามทดสอบรถยนต์มิตซูบิชิในประเทศไทย และเป็นสนามแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เงินลงทุนมูลค่า 500 ล้านบาท บนพื้นที่ 95 ไร่ ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ใกล้โรงงานประกอบรถยนต์มิตซูบิชิที่แหลมฉบัง

 

ทั้งนี้ ได้แบ่งการทดสอบออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ (1) สนามทดสอบอเนกประสงค์ (2) การทดสอบเสียงรบกวน-ความกระด้าง (3) การทดสอบวิเคราะห์ และ (4) สนามขับขี่รูปวงรีความยาว 1.5 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีการจำลองพื้นผิวถนนรูปแบบต่างๆ เพื่อการทดสอบด้านความรู้สึกในการขับขี่ และยังใช้เป็นสนามสำหรับทดสอบรถยนต์มิตซูบิชิในพื้นที่เขตร้อน ซึ่งจะช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ต่อไปในอนาคต

 

"โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานด้านวิจัย และพัฒนา ที่จะได้มีการขยายการลงทุนอื่นๆ เพิ่มเติมอีกในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทฯวางแผนที่จะสร้างทีมวิศวกรรวม 100 คน เพื่อร่วมกันพัฒนารถยนต์มิตซูบิชิรุ่นใหม่ ตั้งเป้าให้เป็นวิศวกรญี่ปุ่น 35% ซึ่งจะให้ความรู้และพัฒนาให้วิศวกรคนไทยอีก 65% สามารถเป็นผู้ออกแบบรถยนต์ โดยเฉพาะดีไซน์ภายนอก" นายนาคาโอะ กล่าว

 

ปัจจุบัน มิตซูบิชิในประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตสำคัญเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์สูงสุดอยู่ที่ 4.2 แสนคัน และใช้กำลังการผลิตอยู่ในระดับ 80-90% ทั้งนี้ ในอนาคตหากความต้องการรถยนต์เพิ่มสูงขึ้น สามารถเพิ่มกะการทำงานและผลิตได้สูงสุดถึง 5 แสนคัน

 

ด้าน นายวิชัย จิราธิยุต ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ โตโยต้าและฮอนด้าก็เข้ามาสร้างสนามทดสอบและศูนย์วิจัยในไทย ซึ่งการที่มิตซูบิชิจะเข้ามาลงทุนสร้างสนามทดสอบและศูนย์วิจัยเพิ่มนั้น แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของค่ายรถยนต์ที่มีความมั่นใจในประเทศไทยมากขึ้น และยังเป็นการยกระดับการผลิตรถยนต์ของไทย จากเดิมที่เป็นเพียงผู้รับจ้างผลิตไปสู่การเข้าไปมีส่วนร่วมในการวิจัยและออกแบบ ซึ่งจะทำให้ไทยก้าวไปสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลก

 

สำหรับยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยนั้น นายวิชัยกล่าวว่า ไทยจะเดินไปตามแผนการพัฒนารถยนต์ของโลก ซึ่งจะค่อยๆ ลดบทบาทของเครื่องยนต์สันดาปภายในหรือเครื่องยนต์ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลลง และจะก้าวไปสู่การพัฒนาเครื่องยนต์ไฮบริดจ์ที่ทำงานร่วมกันระหว่างไฟฟ้ากับน้ำมัน จากนั้นจะเป็นเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดจ์ที่จะเน้นการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น และไปสู่การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

 

ทั้งนี้ คาดว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งรัฐบาลจะให้การสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ ตั้งแต่มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถบัสไฟฟ้า รวมทั้งจะต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รองรับ เช่น สถานชาร์ตไฟ ระบบความปลอดภัยต่างๆ ด้วย